ศิลปะการใช้ Excel ต่างจากศาสตร์ตรงไหน

ครบแล้วครับ 13 หลักสูตรเรียนออนไลน์ Excel ขั้นพื้นฐาน ในโรงเรียนที่ผมตั้งใจสร้างขึ้นที่เว็บ ExcelExpertTraining.com/online ตอนนี้มีลูกศิษย์ที่เข้ามาเรียนกว่า 5,000 คน

ทำไมจึงมีหลายหลักสูตรมากแบบนี้

ก่อนอื่นต้องขอแย้งว่า ใครที่บอกว่าเรียนแค่หลักสูตรนี้หลักสูตรเดียวก็เก่ง Excel ถึงขั้นนั้นขั้นนี้แล้วนั่น ไม่จริงหรอก Go-6

เท่าที่ผมใช้ Excel หลายสิบปี ยังพบว่ามีอะไรแปลกใหม่ให้ตกใจอยู่เรื่อยๆว่า ยังมีวิธีที่ดีกว่า ง่ายกว่า เหมาะสมกว่าวิธีที่ผมเคยใช้

Excel ขั้นสูงนั้นไม่มีหรอก มีแต่ว่าถ้าสามารถใช้วิธีง่ายๆเพื่อแก้ปัญหายากๆได้ นั่นแหละจึงจะเรียกว่าขั้นสูง

Excel ขั้นสูงขึ้นกับโจทย์ต่างหาก ถ้าใครใช้วิธีอ้อมโลกทั้งๆที่เป็นเรื่องง่ายๆ นั่นน่าจะเรียกว่า Excel ขั้นติดลบ

ยุติธรรมไหมครับ ในเมื่อมีขั้นสูง ก็ต้องมีขั้นติดลบได้เหมือนกัน

อย่างสูตรยากๆยาวๆที่เห็นแล้วต้องตาโตนั่นแหละ ที่หลายคนเรียกว่าเป็นขั้นสูง ผมว่าถ้าดูให้ดีแล้วยังหาทางทำให้สั้นลงได้ สามารถปรับให้ง่ายสำหรับทั้งตัวเองและคนอื่น สูตรย้าวยาวที่หลงภูมิใจนั้นน่าเรียกว่าขั้นติดลบมากกว่า

สมัยผมทำงานไทยพาณิชย์ เคยหลงภูมิใจที่ตัวเองสามารถสร้างสูตรยาวๆและใช้ VBA สั่งรันเป็นลูปเพื่อเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ ต้องคำนวณซ้ำแบบอัตโนมัติกว่าครึ่งวันจึงจะได้รายงานออกมา ตอนหลังมาพบว่ายังสามารถใช้คำสั่ง Data Table ช่วยงานได้ง่ายและเร็วกว่ามาก … นิ้วโป้งที่ชี้ขึ้นว่า ข้าแน่จริง กลับต้องชี้ลง หลงภาคภูมิอยู่นานว่านั่นเป็นขั้นสูงแล้ว

2 หลักสูตรใหม่ สุดยอดเคล็ดลับและลัดของ Excel กับ ฉลาดใช้สารพัดสูตร Excel อย่างมืออาชีพ ว่าไปแล้วคือประวัติการใช้ Excel ในการสร้างงานของผม

2 หลักสูตรนี้ ผมเรียกว่าเป็นศิลปะการประยุกต์ใช้ Excel แต่ละเรื่องกว่าจะรู้ว่ามีวิธีแบบนี้ด้วยต้องผ่านการลองผิดลองถูกอยู่นาน มีหลายอย่างที่นึกไม่ถึง ซึ่งเท่าที่ผมตอบปัญหาในฟอรัมหรือใน fb นี้มา ยังไม่เคยเห็นใครเอ่ยถึงวิธีการใช้ Excel แบบที่ผมนำมาเล่าให้ฟังในหลักสูตรนี้้มาเลย น่าประหลาดใจมาก (หรือวิธีของผมประหลาดก็ไม่รู้)

วิดีโอใน 2 หลักสูตรนี้ยาวมากครับ 210 ตอน ยาวกว่า 54 ชั่วโมง ทำวิดีโอไป บวกเล่าเรื่องใช้เป็นแนวทางที่ผมใช้ไป เลยยาวแบบนี้

ทุกคนเรียนได้นะครับ ผมปูพื้นฐานจากง่ายๆไว้ก่อนเสมอ หลายเรื่องอาจซ้ำหรือเหมือนกับหลักสูตรอื่น แต่ต่างมุมมองกัน

ใครที่ใช้ Excel แล้วคิดว่าตัวเองหมดหนทาง ไม่มีทางอื่นที่ดีกว่าอีกแล้ว ติดปัญหาการใช้งานเยอะแยะที่แก้ไม่ออก เหมาะที่จะเรียน 2 หลักสูตรนี้มากๆ

ส่วนหลักสูตรอื่นที่ผมสร้างไว้ให้เรียนออนไลน์ก่อนนี้ ผมเรียกว่าเป็นศาสตร์ของการใช้ Excel ซึ่งมีวิธีการใช้งานที่ตายตัว ใครๆก็อาจจะนำมาสอนได้เหมือนกับที่ผมสอน อาจต่างกันบ้างตรงที่วิธีการนำเสนอ ใครสามารถทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจได้ดีกว่ากัน

ในอนาคตถัดจากนี้ ผมเตรียมจะสร้างหลักสูตรขั้นประยุกต์ใช้ในงานแต่ละอย่าง เช่น การวางแผนการผลิต การขายและการตลาด งานบัญชีการเงิน ซึ่งในเนื้อหาจะไม่ยั้ง มารอปูพื้นฐานให้ก่อนอีกต่อไป

จะได้เห็นกันสักทีว่า คำว่าประยุกต์ใช้ Excel จริงๆนั่นน่ะเป็นยังไง

เวลาผมเปิดเว็บขึ้นมาจะแอบเข้าไปตรวจสอบว่ามีใครเข้ามาเรียนบ้าง ซึ่งน่าดีใจมากครับที่ลูกศิษย์เข้ามาเรียนกันเยอะมาก ตลอดเวลา

อย่าลืมว่า ผมมีฟอรัมถามตอบปัญหา Excel ให้ใช้กันได้ที่เมนูห้องเรียน > ฟอรัมถามตอบปัญหา หรือจะถามที่กลุ่มคนรัก Excel ก็ได้ครับ

ตอนนี้ทุกหลักสูตรที่เป็นแบบสมาชิกตลอดชีพ ผมลดราคาลง 50% ทั้งหมดให้แล้ว ขอให้ตั้งใจเรียนกัน และหวังว่าวันหนึ่งลูกศิษย์จะเก่งกว่าครูคนนี้นะครับ จะเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

เรียน Excel ออนไลน์อย่างเป็นระบบ

เปิดตัว 2 หลักสูตรใหม่เรียนออนไลน์ สำหรับคนรัก Excel

ราคาเพียง 959 บาท เปิดตัว 2 หลักสูตรใหม่เรียนออนไลน์ สำหรับคนรัก Excel ชมคลิปวิดีโอ 210 ตอน ยาวกว่า 50 ชั่วโมง

เหมาะสำหรับทุกคนที่ใช้ Excel เป็นประจำ ใช้ทั้งวันแล้วยังฝันถึง Excel ทั้งคืน เพื่อหาทางประยุกต์ใช้ Excel ในวิธีการที่นึกไม่ถึง มุ่งหาแนวทางการสร้างงานอย่างมืออาชีพ

>>> คลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียนตลอดชีพ ราคา 959 บาท เพื่อเข้าเรียน 2 หลักสูตรใหม่

  1. หลักสูตรสุดยอดเคล็ดลับและลัดของ Excel (ราคาปกติ 2,450 บาท) (download เนื้อหา)
        วิดีโอ 84 ตอน 24 ชั่วโมง 8 นาที
  2. หลักสูตรฉลาดใช้สารพัดสูตร Excel อย่างมืออาชีพ (ราคาปกติ 2,450 บาท) (download เนื้อหา)
        วิดีโอ 126 ตอน 30 ชั่วโมง 9 นาที

>>> คลิกที่นี่เพื่อสมัครเรียนตลอดชีพ ราคา 1,250 บาท เพื่อได้สิทธิ์เข้าเรียนเพิ่มอีก 2 หลักสูตร รวมเป็น 4 หลักสูตร

  1. หลักสูตรสุดยอดเคล็ดลับและลัดของ Excel (ราคาปกติ 2,450 บาท)
        วิดีโอ 84 ตอน 24 ชั่วโมง 8 นาที
  2. หลักสูตรฉลาดใช้สารพัดสูตร Excel อย่างมืออาชีพ (ราคาปกติ 2,450 บาท)
        วิดีโอ 126 ตอน 30 ชั่วโมง 9 นาที
  3. หลักสูตรหันมาใช้ Excel จัดการข้อมูลแทน Access กันดีกว่า (ราคาปกติ 1,950 บาท)
        วิดีโอ  78 ตอน 13 ชั่วโมง 55 นาที
  4. หลักสูตร Excel Dynamic Reports (ราคาปกติ 1,450 บาท)
        วิดีโอ  53 ตอน 11 ชั่วโมง 40 นาที

>>> คลิกที่นี่เพื่ออ่าน “2 หลักสูตรใหม่นี้ ต่างจากหลักสูตรอื่นตรงไหน”

::::::::::::::

*** นอกจากนี้ เพื่อช่วยเหลือกันในยุควิกฤติโควิด ทุกหลักสูตรที่เป็นสมาชิกตลอดชีพ ลดราคา 50% ***

::::::::::::::

กรณีสนใจสมัครเรียนแบบกลุ่มตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต้องการใบเสนอราคาเพื่อนำเสนอให้บริษัทออกค่าใช้จ่ายให้

โปรดโทรติดต่ออาจารย์สมเกียรติ โทร 097-140-5555 หรือ อีเมล Excel@ExcelExpertTraining.com

ปล ไม่ต้องรีบสมัครนะครับ ราคานี้จะยังคงเปิดรับสมัครตราบเท่าที่เรายังไม่พ้นจากวิกฤติโควิด

SumIFS สู้ SumProduct ไม่ได้ตรงไหน

SumIFs เป็นสูตรที่สามารถหายอดรวมตามเงื่อนไขได้หลายเงื่อนไข โดยมีข้อแม้ว่าเงื่อนไขเหล่านั้นต้องเป็นต่างเรื่องกัน เช่นใช้หายอดรวมของยอดขายสินค้ารหัสนั้น ชื่อลูกค้าคนนั้น ในวันที่นั้น แต่ไม่สามารถใช้กับเงื่อนไขที่เป็นเรื่องเดียวกัน เช่น ไม่สามารถใช้หายอดรวมของสินค้านั้นรวมกับสินค้านี้

ส่วน SumProduct สามารถใช้ได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยใช้หลักจำง่ายๆว่า

– ถ้าเงื่อนไขเป็นเรื่องเดียวกัน ให้นำเงื่อนไขมาบวกกัน และมีวงเล็บด้านหน้า 3 ชั้น

– ถ้าเงื่อนไขเป็นต่างเรื่องกัน ให้นำเงื่อนไขมาคูณกัน และมีวงเล็บด้านหน้า 2 ชั้น

นอกจากนี้ SumIFs ยังไม่สามารถนำสูตรอื่นมาซ้อนเข้าไปในวงเล็บ ส่วน SumProduct ซ้อนได้ตามสบาย

จากภาพนี้ถ้าไม่มีรายการซ้ำเลย สูตร SumIFS จะช่วยหาว่า ณ วันที่ 20/11/2019 มีรายการ a004 ที่ชื่อ d นั้นมี Amount เท่ากับ 40

=SumIFS(Amount, Date, 20/11/2019, Id, a004, Name, d)

แต่ถ้าต้องการใช้เงื่อนไขหาเฉพาะวันที่ 20 เท่านั้นล่ะ พอนำสูตร Day ซ้อนเข้าไปแบบนี้จะพบว่า Excel ไม่ยอมให้สร้างสูตรแบบที่ต้องการเข้าไปด้วยซ้ำ

=SumIFS(Amount, Day(Date), 20, Id, a004, Name, d)

ทำไมน่ะหรือ เพราะ SumIFS เป็นสูตรที่ไม่ยอมให้ซ้อนสูตรอื่นเข้าไปในวงเล็บ จึงเหมาะกับเงื่อนไขตรงกับข้อมูลชัดเจน ส่วนสูตร SumProduct ยอมรับการซ้อนสูตรจึงยืดหยุ่นกว่ามาก

=SumProduct((DAY(Date)=20)*(Id=a004)*(Name=d)*Amount)

หากต้องการหาว่ารายการที่ต้องการนั้นอยู่ที่ row ใด ก็เพียงซ้อนสูตร Row เข้าไปแบบนี้

=SumProduct((DAY(Date)=20)*(Id=a004)*(Name=d)*Row(Amount))

จากเลขที่ Row ที่หาได้ พอนำไปใช้บอกตำแหน่งในสูตร Index จะช่วยหาข้อมูลของรายการนั้นที่เป็น Text หรือตัวอักษรได้โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นตัวเลขเท่านั้นอีกต่อไป

=Index (Column ของข้อมูลเรื่องที่ต้องการ, เลขที่ Row)

นอกจากนี้สูตร SumIFS ยังรับเงื่อนไขได้เฉพาะแบบ And เท่านั้น หากจะหายอดรวมของรหัสนั้นหรือรหัสนี้ซึ่งใช้แบบ Or จะทำไม่ได้ ส่วน SumProduct ทำได้สบายมาก

*** ถ้าค่าที่ต้องการหาเป็นตัวเลข และมีเพียงรายการเดียว ไม่มีซ้ำ ให้ใช้ SumProduct หาได้เลยครับ
โยนสูตร VLookup Match Index ทิ้งไป

ที่มา

หลักสูตรเรื่องรีบรู้เพื่อพร้อมใช้ Excel ทำงานแบบ Fast and Easy
https://www.excelexperttraining.com/online/courses/05-fast-and-easy/

คุ้มไหม กำไรไหม เมื่อไหร่จะคุ้มทุน IRR เป็นเท่าไร

คุ้มไหม กำไรไหม เมื่อไหร่จะคุ้มทุน IRR เป็นเท่าไร

ปัญหาแบบนี้นักบัญชีการเงินต้องตอบผู้บริหารอยู่เสมอ พอมาถึงยุคโควิด เศรษฐกิจย่ำแย่ แทนที่จะมองเรื่องผลตอบแทน ขอแค่บริหารสภาพคล่องไม่ให้เงินขาดมือ ช่วงนี้ต้องพึ่งการบริหารกระแสเงินสดให้ดี

พอคำนวณหากระแสเงินสดได้แล้วก็จะสามารถคำนวณหาผลตอบแทน IRR กับ NPV ได้ด้วย

โดยทั่วไปจะสอนให้หากระแสเงินสดแบบง่ายๆจากงบกำไรขาดทุน โดยนำยอดกำไรมาปรับด้วยค่าเสื่อมราคา รายได้ค้างรับ และค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ซึ่งเป็นยอดที่ทางบัญชีต้องลงบันทึกไว้แบบ Accrual Basis พอปรับยอดเหล่านี้แล้วก็จะทำให้งบกำไรขาดทุนแปลงสภาพเป็นงบกระแสเงินสด พอนำไปหา IRR ได้ยอดมาก็ถือว่าเสร็จ ส่งรายงานให้หัวหน้าได้

แต่ทราบไหมว่าการมองผลตอบแทนจากการคำนวณง่ายๆนี้ ไม่สมเหตุผลในการดำเนินธุรกิจสักเท่าไรนัก เพราะถือว่าเงินสดที่ได้รับนั้นส่งคืนออกไปเต็มจำนวน ต่างจากสภาพความเป็นจริงที่ต้องเก็บเงินสดไว้ใช้เป็นสภาพคล่องในการดำเนินงานในรอบต่อๆไป

นอกจากนั้น IRR ที่คำนวณได้จากการคิดจากงบกำไรขาดทุนอย่างเดียว ยังไม่ได้ตอบคำถามสำหรับเจ้าของกิจการและเจ้าหนี้รายใหญ่นั่นก็คือธนาคารที่ให้กู้เงินว่าธุรกิจนี้ให้ผลตอบแทนคุ้มกับเงินที่ให้ไปหรือเปล่า

IRR สำหรับเจ้าของกิจการ ต้องคำนวณจากกระแสเงินสดของผู้ถือหุ้น ซึ่งมาจากเงินค่าหุ้นที่จ่ายออกไป นำมาคำนวณร่วมกับเงินปันผลที่ได้รับกลับมา อีกทั้งยังต้องสมมติว่าพอสิ้นสุดระยะเวลาที่คำนวณแล้วมีการขายหุ้นคืนกลับมาทั้งหมดด้วย ถ้ามีเงินกู้ยืมกรรมการที่ขอยืมมาก็อาจนำไปรวมด้วยก็ได้

ส่วน IRR สำหรับธนาคาร มาจากเงินกู้ที่ธนาคารให้ไปกับดอกเบี้ยและการคืนเงินต้นกลับไปให้กับธนาคาร ซึ่งยังแบ่งเป็นแบบระยะสั้นพวก OD กับเงินกู้ระยะยาว

Download ตัวอย่างนี้ได้จาก
https://drive.google.com/file/d/1bWP670Q1nPGrbeRDMmPxwQgPsgz4Fivp/view?usp=sharing

แฟ้มนี้สร้างมานานแล้ว เวลาเปิดจะมีคำเตือน error กับเตือนการลิงก์ ไม่ต้อง update link นะครับ

Download แฟ้มในการศึกษา Financial Feasibility Study ทั้งหมดได้จาก
https://www.excelexperttraining.com/online/financial-feasibility-study/

VBA ยากไหม เรียนไหวไหม

ไม่ยากเลยครับ ทุกคนเรียนได้ เพราะผมไม่ได้สอนแบบสมัยก่อน

ยุคแรกๆที่ผมสอน VBA วิธีที่ใช้สอนสมัยนั้นเป็นวิธีที่ใช้ตามตำรา ว่ากันตามทฤษฎีจ๋า รหัสยาวเหยียดเป็นหน้าหลายร้อยบรรทัด สอนไปก็คิดสงสารลูกศิษย์ไป

เข้าเรียนกันเต็มห้อง 25 คน ถ้าเข้าใจสักครึ่งห้องก็พอใจแล้ว ผมคิดในใจ

คิดแล้วคิดอีก ผมตัดสินใจเลิกสอนตามตำรา หันมาสอนตามวิธีที่ผมใช้เองดีกว่า เป็นวิธีที่ค้นพบจากการทดลองทำแล้วทำอีก พบว่าใช้งานได้

เคยมีคนเก่ง VBA มานั่งเรียน มองหน้าผมแล้วไม่ยอมทำตัวอย่างตาม ไม่เชื่อว่าจะใช้งานได้

ผมต้องบอกว่า ขอให้เก็บความรู้ VBA เก่าของคุณเข้ากระเป๋าไว้ก่อน ลองทดลองทำตามแล้วจะรู้ว่า วิธีใหม่นี้ง่ายกว่าตั้งเยอะ ใช้งานได้เหมือนกันนั่นแหละ

หลักสำคัญที่ใช้ VBA ที่ผมยึดถือก็คือ ต้องทำให้รหัส VBA สั้นที่สุดและไม่ต้องแก้ไขรหัสใหม่อีกเลย ไม่ว่าจะโยกย้ายตารางเปลี่ยนตำแหน่งเซลล์ไปที่ไหน รหัส VBA ก็ต้องยังทำงานได้เสมอ

แทนที่จะเขียนรหัสเอง ให้ใช้ Macro Recorder ช่วยสร้างรหัสให้ก่อนแล้วค่อยดัดนิดแต่งหน่อย จะง่ายกว่าเขียนรหัสเองทั้งหมด

ถ้าถามว่า ระหว่าง Excel กับ VBA คุณถนัดอะไรมากกว่ากัน

แน่นอน ต้องตอบว่า ถนัด Excel มากกว่าใช่ไหม

ดังนั้นแทนที่จะใช้ VBA แบบยากๆที่ตนเองไม่ถนัดซึ่งทำให้แย่เข้าไปใหญ่ ให้นำเรื่องยากฝากไว้ที่ Excel ส่วน VBA ต้องทำให้ง่ายที่สุด

ไม่ว่าใครที่มารับงานต่อ ต้องสามารถตรวจสอบแก้ไขได้ง่าย

เชิญลองเรียน ทำตามวิธีที่ผมแนะนำไว้ใน “หลักสูตรเคล็ดการเพิ่มผลงาน ลดความซับซ้อนของงานด้วย Excel VBA-Macro” ดูนะครับ จะใช้รหัส VBA แค่ 2 บรรทัดเป็นหลัก

MyVar = [Source]

[Target] = MyVar

สามารถช่วยงานจัดการข้อมูล นำข้อมูลไปเก็บต่อท้ายเป็นรายการใหม่ หรือจะใช้แก้ไขรายการเก่าก็ได้ ไม่ว่าข้อมูลจะเพิ่มลดมีกี่รายการ ใช้รหัสแค่ 2 บรรทัดนี่แหละครับ

น่าเสียดายที่คนที่ไม่เคยใช้ VBA มาก่อนคงไม่ทราบว่าวิธีนี้พิเศษแค่ไหน เพราะไม่เคยพบกับความลำบากยากเย็นกับรหัสแบบเดิมๆ

พอเรียนเสร็จ ขอท้าทายให้นำแฟ้มไปอวดให้คนเก่ง VBA ที่บริษัทดูว่าเขาเข้าใจไหมว่าทำได้อย่างไร ทำเป็นไหมแบบนี้

ลูกศิษย์ที่มาเรียนหลักสูตรนี้ที่บ้านผมซึ่งมีพื้น VBA มาก่อน บอกว่าดีใจมากที่ได้วิธี 2 บรรทัดนี้ไปใช้งาน ไม่ต้องห่วงว่าลูกน้องของเขาจะสร้างรหัสที่ยากๆยาวๆอีกแล้ว ง่ายทั้งคนสร้าง คนใช้งาน ง่ายทั้งหัวหน้า

Filtering 4 Solutions

อยากขี้เกียจใช้ Excel ทำงานที่ซ้ำแล้วซ้ำอีกไหมครับ ไม่อยากใช้สูตรยากๆยาวๆใช่ไหม

2-3 วันมานี้มีลูกศิษย์โทรมาถามว่า อยากจะหารายชื่อลูกค้าที่บ้านอยู่ในกรุงเทพ จะหาได้ยังไง แล้วถ้าจะหาซอยย่อยลงไปอีกล่ะว่าในกรุงเทพเฉพาะเขตบางกะปิมีรายชื่อลูกค้าคนใดบ้าง

ทำยังไงให้ง่ายที่สุดล่ะครับ

สั่ง Data > Filter จัดการกรองข้อมูลตามจังหวัดกับเขต ง่ายดี แต่วิธีนี้ข้อมูลที่ได้จะอยู่ในตารางที่เดิม ไม่สามารถแยกออกไปเป็นอีกตาราง

อีกวิธีใช้คำสั่ง Data > Advanced จะช่วยแยกข้อมูลออกไปอีกตารางได้ตามต้องการ

ถ้าใช้ Pivot Table ก็ได้แต่ยังไงก็ต้องมา Filter ต่ออีกที

ทั้ง 3 วิธีนี้มีข้อเสียร่วมกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเป็นการใช้คำสั่งบนเมนู … แล้วไม่ดียังไง

งานใดก็ตามที่ได้มาจากการใช้คำสั่งบนเมนู ทำให้พอมีข้อมูลรายการเพิ่มแล้วอยากจะให้หาคำตอบใหม่ ก็จำเป็นต้องใช้คำสั่งบนเมนูซ้ำอีก Excel ไม่ได้หาคำตอบใหม่ให้โดยอัตโนมัติ

ผลเสียต่อเนื่องก็คือ พอส่งแฟ้มไปให้คนอื่นใช้โดยเฉพาะหัวหน้าที่ไม่คล่อง Excel คุณเองก็ต้องถูกสั่งให้มาทำให้ใหม่ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆๆๆๆๆ น่าเบื่อไหมครับ

ถ้าอยากจะทำให้ Excel หาคำตอบใหม่ให้เองทันทีก็ต้องฝึกสร้างสูตรพวก Multiple Match ซึ่งสูตรก้อย้าวยาว หรือถ้าใช้ Excel 365 มีสูตรใหม่ที่ลัดขั้นตอน เหลือสูตรสั้นๆเพียงแค่นี้

=Filter(DatabaseRange,(ProvinceRange=”กรุงเทพ”)*(DistrictRange=”บางกะปิ”))

พอคุยกับลูกศิษย์ว่าเรียนออนไลน์อะไรกับผมไปแล้วบ้าง

อ้อ ได้เรียน VBA ไปแล้ว

ถ้างั้นได้ทางออกอีกวิธีครับ แค่ใช้ Macro Recorder บันทึกการใช้คำสั่งบนเมนู Data > Advanced ก็จะได้รหัส VBA มาใช้โดยไม่ต้องเขียนเองแม้แต่น้อย สูตรก็ไม่ต้องสร้าง Excel ก็ไม่ช้าลง แฟ้มก็ไม่ใหญ่ขึ้นเพราะสูตร

พอบันทึก Macro เสร็จก็แค่สร้างปุ่มเอาไว้กดเมื่ออยากจะได้คำตอบ หัวหน้าอยากได้คำตอบก็แค่คลิกที่ปุ่ม ใครๆก็ทำได้ แถมใช้กับ Excel ได้ทุกรุ่น

Macro Recorder จะช่วยทำให้ขี้เกียจทำงานได้อีกเยอะครับ สูตรก็ไม่ต้องวุ่นวายไปสร้าง

เพียงแค่รู้จักใช้ Range Name ช่วยตอนที่บันทึก จะได้รหัส VBA ที่ยืดหยุ่นเอาไปใช้ได้ตลอด ไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับไปแก้รหัสอีกเลย

เรื่องนี้เล่าให้ฟังครับ จะได้รู้ว่า VBA เนี่ยมีไว้ใช้ทำอะไร

ตอนนี้ผมกำลังเปิดให้สมัครเรียนออนไลน์ ฟรี อยู่ด้วย ได้เป็นสมาชิกตลอดชีพ

เขิญลงทะเบียนสมัครได้ที่ https://www.excelexperttraining.com/online/register/free_gift/

ปกติหลักสูตร VBA จะต้องแพงที่สุด เพราะคนที่รู้ว่า VBA สามารถใช้ทำอะไรที่ช่วยเขาได้บ้างจะยอมลงทุนจ่ายเงินเรียนเพราะรู้ว่าคุ้มกับการลงทุน

แต่เพราะราคาที่แพงนี่แหละกับหาคนที่รู้ค่าของ VBA ได้น้อยมาก แทนที่จะเก็บหลักสูตรนี้ไว้เฉยๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ขอยกมาให้เรียน ฟรี ดีกว่าครับ

เชิญเรียนฟรี 3 เดือน วิธีสร้างกราฟ

ช่วงนี้น่าสงสารทั้งคุณและผม หลายคนต้อง WFH ถูกลดเงินเดือน หรือถึงขั้นต้องออกจากงานไม่มีรายได้ ส่วนผมจะเปิดสอน Excel ที่บ้านก็ไม่ได้ ส่วนที่เปิดให้สมัครเรียนออนไลน์ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจสมัครกันนัก ขาดรายได้เหมือนกัน ดีที่พอมีเงินเก็บไว้อยู่บ้าง

อะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องเก็บเงินไว้นะครับ ไม่รู้ว่าอนาคตจะอีกนานไหมกว่าจะกลับคืนสู่สภาพปกติ

ผมคิดไว้เสมอว่าต้องหาอะไรมาช่วยเหลือกัน ผมมีแต่ความรู้ Excel และหลักสูตรที่เตรียมไว้แบบออนไลน์นี่แหละที่พอจะนำมาให้พวกเราได้เรียนกันฟรี

เกริ่นมาพอควร เข้าเรื่องเลยดีกว่า

ขอเชิญมาเข้าเรียนออนไลน์ ฟรี 3 เดือนเพื่อฝึกสร้างกราฟกันไหมครับ

หลักสูตร “เคล็ดการสร้างกราฟให้เห็นปุ๊บ-เข้าใจปั๊บ”

(วิดีโอ 44 ตอนยาวกว่า 5 ชั่วโมง)

แถมเนื้อหา Excel User Interface อีก 41 ตอนยาว 4 ชั่วโมง เพื่อปรับหน้าตาตารางให้ดูดี สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

คลิกที่ลิงก์นี้เพื่อสมัคร https://www.excelexperttraining.com/online/register/free-boarding/

หลักสูตรนี้เดิมชื่อ Excel Dynamic Chart ใครที่เคยสมัครแพครวม 5 หลักสูตรไว้แล้ว ไม่ต้องสมัครอีกนะครับ

================================

เนื้อหาหลักสูตรนี้ไม่เหมือนกับที่คนอื่นเขาสอนกันนัก …

“กราฟที่ดีต้องช่วยแสดงข้อมูลที่มีอยู่ให้เห็นชัด เข้าใจง่าย ช่วยชี้ประเด็นที่น่าสนใจได้ทันที” สมกับสุภาษิตที่ว่า “A Picture is worth more than a thousand words”

ทราบหรือไม่ว่า กราฟ Excel มีความสามารถพิเศษ เหนือกว่ากราฟที่สร้างจากโปรแกรมอื่น ทุกส่วนบนกราฟของ Excel สามารถลิงก์ข้อมูลจากเซลล์หรือแม้แต่ตารางมาแสดง ทำให้ปรับเปลี่ยนข้อความที่นำมาอธิบายประกอบ ไม่ต้องเสียเวลาไปอ่านจากที่อื่นให้เสียเวลา

ตัวเส้นกราฟ Excel เป็นสูตรที่ดัดแปลงได้ด้วย ทำให้สามารถเลือกข้อมูลเฉพาะส่วนที่ต้องการมาแสดง เส้นกราฟสามารถยืดได้หดได้ตามจำนวนรายการที่เพิ่มลดได้อีกด้วย โดยไม่ต้องพึ่งอะไรที่ยากเย็นอย่าง VBA แม้แต่น้อย

ยุคนี้เป็นยุคของ Big Data แทนที่จะเสียเวลาสร้างกราฟให้สวย เริ่มแรกต้องหาทางทำให้กราฟยืดหยุ่น หน้ากราฟไม่แออัดไปด้วยข้อมูลที่เบียดกันจนดูไม่ออก

ดูเนื้อหาได้จาก https://www.excelexperttraining.com/online/courses/dynamic-charts/

สูตรพิเศษหาวันในสัปดาห์ก่อนปีค.ศ. 1900

อยากทราบไหมว่า วันที่ก่อนปีค.ศ. 1900 เป็นวันอะไรในสัปดาห์ วันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ … มาใช้สูตรพิเศษที่ Excel ไม่มีกันครับ

แฟ้มตัวอย่างนี้เป็นสูตรหนึ่งที่ผมใช้สร้างโปรแกรมดูดวง ในหลักสูตรดูดวงให้สนุกด้วย Excel เชิญ Download ตัวอย่างพร้อมนำมาใช้งานตามภาพนี้ได้จาก

https://drive.google.com/open?id=1ChdnETv2eaQ88dxR7CrGIAzAyxnw-wLI

สูตรพิเศษที่ใช้ได้มาจาก
http://www.stargazing.net/kepler/astrofnc.html

เรื่องการใช้ปีใน Excel หลายคนน่าจะทราบแล้วว่า Excel ใช้กับวันที่ย้อนหลังไปได้แค่ปีค.ศ. 1900 เท่านั้น แต่ถ้าเผลอใช้วันที่ก่อนนั้นล่ะ Excel ไม่น่าจะหาคำตอบให้ แต่ถ้าทดสอบดูจะพบว่า Excel ยังคำนวณหาวันในสัปดาห์ได้อยู่ …. แต่ทำผิดๆมาให้

ไม่ใช่แค่ก่อนปีค.ศ. 1900 เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ก่อน 1 มีนาคม 1900 โปรแกรม Excel คำนวณหาวันในสัปดาห์ผิดพลาดไปตลอด

1900Jday

มาเทียบกับวันที่จริงในปฏิทินปี 1900 ให้เห็นกับตา

29/2/1900 ไม่ควรมี เพราะปี 1900 หาร 100 ลงตัวแต่หารด้วย 400 ไม่ลงตัว ดังนั้นในปี 1900 เดือนกุมภาพันธ์จึงมีแค่ 28 วัน

(Microsoft ทราบเรื่อง 28-29 วันดีครับ แต่โปรแกรมอื่นเขาใช้ผิดกัน ทาง Microsoft จึงตัดสินใจทำตามโปรแกรมเจ้าอื่นไปด้วย)

29/2/1900 สูตรพิเศษถือว่าเป็นวันถัดไป 1/3/1900 ให้เลยและหาว่าเป็นวันพฤหัส
29/2/1900 สูตร Weekday ของ Excel หาว่าเป็นวันพุธ … ตอบผิด

28/2/1900 ต้องเป็นวันพุธ Excel ตอบเป็นวันอังคาร ซึ่งวันที่ถอยหลังไปนับจากนี้ผิดหมด

31/12/1899 เป็นวันอาทิตย์ Excel ตอบว่าเป็นวันอังคาร

1/1/1900 ถัดไปอีกแค่วันเดียวจากวันสิ้นปี ต้องเป็นวันจันทร์ แต่ Excel ตอบว่าเป็นวันอาทิตย์ วันกระโดดไปเลย 5 วัน

สูตรพิเศษนี้สามารถย้อนเลขปีไปก่อนปีค.ศ. สามารถหาว่า 543 ปีก่อนนั้นเป็นวันอะไรได้ด้วย

แจกโปรแกรมแก้ปี พ.ศ. ให้เป็น ค.ศ.

คลิกที่นี่เพื่อ Download แฟ้ม Zip Add-in

การบันทึกเลขปีพ.ศ.ลงไปใน Excel ถือว่าเป็นปัญหาที่มีมาตลอดทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเลขปีพ.ศ.ที่บันทึกนั้น Excel ถือว่าเป็นปีค.ศ. ทำให้เมื่อนำค่าไปใช้ต่อก็จะได้คำตอบที่ผิดพลาด

หากต้องการแก้ไขให้ถูกต้องก็จำเป็นต้องเสียเวลาพิมพ์ทับค่าใหม่ลงไปหรือต้องใช้สูตรปรับแก้ทีละเซลล์ และยังอาจเผลอไม่ได้แก้ไขให้ครบทุกเซลล์อีกด้วย

Korsor_from_Porsor Add-in นี้ทำหน้าที่ค้นหาและแก้เลขปีพ.ศ.ที่บันทึกไว้ในเซลล์ให้เปลี่ยนไปเป็นปีค.ศ.ให้โดยอัตโนมัติ โดยโปรแกรมจะทำหน้าที่ค้นหาให้เองว่าบันทึกผิดไว้ที่เซลล์ใดบ้าง จากนั้นเมื่อแก้ตัวเลขปีให้แล้ว จะสร้าง Note แสดงกำกับเซลล์ที่ถูกแก้ไขไว้ให้ด้วย เช่น เดิมบันทึกไว้เป็น 21/7/2564 จะแก้ให้เป็น 21/7/2021

การที่ Add-in นี้ช่วยตรวจสอบให้ จะช่วยสร้างความมั่นใจได้มากขึ้นว่าบันทึกปีไว้ถูกต้องทั้งหมดทุกเซลล์ ง่ายและรวดเร็วกว่าการตรวจสอบทีละเซลล์ด้วยสายตา

ขอเชิญแชร์แฟ้มนี้ให้คนไทยได้ใช้กันด้วยครับ จะได้เกิดประโยชน์กับสังคมส่วนรวมมากยิ่งขึ้น

วิธีการใช้งาน

  1. Download Zip แล้วแตกแฟ้ม Korsor_from_Porsor.xlam เก็บไว้ที่โฟลเดอร์ใดก็ได้
  2. ใช้เมนู File > Options > Add-ins > Go > Browse หาแฟ้มตามข้อ 1
  3. เปิดแฟ้มที่บันทึกเลขปีพ.ศ.ไว้แล้วกดปุ่ม Ctrl+k จากนั้นให้กดปุ่ม Yes/Yes/OK ตามวิดีโอนี้

จะพบว่าเซลล์ที่ถูกแก้ไขมีจุดสีแดงแสดงว่ามี Note เตือนว่าแก้ไขจากปีใดไปเป็นปีใด

หากต้องการสร้างเมนูเพื่อคลิกสั่งให้โปรแกรมนี้ทำงานต้องเพิ่มเมนู Add-ins ขึ้นมาก่อนตามที่แสดงไว้ในวิดีโอนี้ ซึ่งไม่จำเป็นเพราะกดปุ่ม Ctrl+k ก็ได้แล้ว

หมายเหตุ

  • Add-in นี้สามารถใช้งานได้กับ Excel 2007 เป็นต้นมา
  • แทนที่จะใช้งานแบบ Add-in ซึ่งค่อนข้างมีหลายขั้นตอน หากต้องการแก้ตัวเลขปีในแฟ้มใด ให้เปิดแฟ้ม Korsor_from_Porsor Add-in นี้โดยใช้คำสั่ง File > Open คู่กับแฟ้มที่ต้องการแก้ไข จะสามารถกดปุ่ม Ctrl+k เพื่อสั่งให้โปรแกรมทำงานได้เช่นกัน เพียงมีข้อแม้ว่าเมื่อปิด Excel ก็จะไม่มีโปรแกรมนี้ทำงานจนกว่าจะเปิดแฟ้มขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง (อย่าแปลกใจว่าเมื่อเปิดแฟ้ม Add-in แล้วไม่พบเห็นหน้าตารางของแฟ้มนี้ เพราะแฟ้ม Add-in จะซ่อนตัวทำงานอยู่เบื้องหลัง)
  • เดิมทีแฟ้มนี้เคยทำแจกไว้ตั้งแต่ปีค.ศ.2000 ในชื่อ BE2AD.xla เพื่อใช้แก้ปัญหา Y2K
  • โปรแกรมนี้สามารถกำหนดให้เลือกแก้ไขเลขปีตั้งแต่ปี 2443 หรือปีใดที่มากกว่าให้เปลี่ยนไปเป็นปีค.ศ. สาเหตุที่ต้องกำหนดปี 2442 ไว้ด้วยเพราะปกติเลขปีเริ่มต้นใน Excel เริ่มจากปีค.ศ. 1900 เป็นต้นมา หากบันทึกไว้เป็นปี 2442 จะเทียบได้กับปี 1899 ซึ่งเป็นไปไม่ได้ใน Excel
  • เชิญแนะนำการปรับปรุงแก้ไขได้ที่ facebook กลุ่มคนรัก Excel
  • สาเหตุที่วันที่ 1/1/2443 เมื่อแก้ไขแล้วได้เป็นวันที่ 2/1/1900 นั้น เรื่องนี้ต้องไล่เรียงถึงประวัติของ Excel ว่าใช้หลักผิดมาตั้งแต่แรกว่าปีค.ศ.1900 มี 366 วัน เพราะคิดง่ายๆว่านำ 1900/4 ลงตัว ซึ่งที่จริงแล้วปี 1900 มี 365 วัน เพราะต้องใช้หลักว่า 1900/4 และถ้าหารด้วย 100 ลงตัวต้อง 1900/400 พร้อมกันด้วย จะพบว่า 1900/400 ไม่ลงตัว ทำให้วันที่ 1/1/1900 – 28/2/1900 นั้นมีค่าผิดพลาดไปทั้งหมด ถ้านำไปเทียบวันในสัปดาห์ด้วยสูตร Weekday จะพบว่าไม่ตรงกับวันที่ในปฏิทินของจริง ขอให้ดูคำอธิบายได้จาก
    https://www.excelexperttraining.com/365/index.php/xl-blog/eet-blogs/excel-4zsuriya/578-weekday-before-1900

คลิปต่อไปนี้แสดงวิธีการใช้โปรแกรมแบบเปิดแฟ้มคู่กัน โดยใช้เมนู File > Open

โปรแกรมจะเลือกแก้ไขจากเซลล์วันที่เท่านั้น โดยดูจากค่าที่บันทึกไว้แม้ว่าจะถูกกำหนดรูปแบบให้แสดงแบบอื่นไว้ก็ตาม (แนะนำว่า ไม่ควรใช้ปีพ.ศ. ไม่ว่าจะเกิดจากการพิมพ์หรือใช้รูปแบบ เพราะคนที่ใช้ Excel ไม่เก่งอาจลอกค่าตามที่เห็นไปใช้ต่ออีก)

Ctrl+k ปกติใช้ทำอะไร ทราบไหมครับ >>> Insert > HyperLink

RefreshOPen

Pivot Table Quick Steps

เนื้อหา Quick Steps นี้เป็นบทย่อของหลักสูตร
“บนเส้นทางลัด PIVOT TABLE สู่การสร้าง DASHBOARDS”

1. แนะนำตัว Pivot Table คืออะไร

Pivot Table มีประโยชน์หลายอย่าง แต่เหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้ Excel เกือบทั้งโลกนิยมใช้อย่างติดอกติดใจ มาจากความสามารถในการสร้างรายงานคำนวณหายอดรวมเสร็จในพริบตา โดยไม่ต้องมาเสียเวลาสร้างสูตรคำนวณเอง ซึ่งประโยชน์ที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ความยืดหยุ่นในการ Pivot หรือหมุนโครงสร้างตาราง เพื่อวิเคราะห์หา “ความสัมพันธ์” ระหว่างยอดตัวเลขที่มาจากปัจจัยต่างๆในการดำเนินธุรกิจ

ดังนั้นหากต้องการใช้ Pivot ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ไม่ควรดูแค่หน้าตารายงานที่เป็นภาพนิ่ง แต่ต้องเรียนรู้วิธีวิธีใช้งานของ Pivot Table ต่างหาก โดยเฉพาะผู้บริหารควรฝึกใช้ Pivot Table ให้เป็นบ้าง โดยไม่จำเป็นต้องรู้ลึกอะไรให้มากเกินไป ขอเพียงเข้าใจวิธีสร้าง สามารถแกะ และปรับโครงสร้างตารางได้เอง อย่ารอเพียงดูหน้ารายงานที่ลูกน้องทำสำเร็จรูปมาให้แล้วเท่านั้น

คลิกที่นี่เพื่อ Download แฟ้มตัวอย่าง


2. แนะนำวิธีการอบรมและเรียนรู้ไปด้วยกัน


3. Pivot Table ไม่ได้มีแต่ข้อดี ควรระวังข้อเสียอะไรไว้บ้าง

นอกจากรายละเอียดที่อธิบายให้ฟังในวิดีโอนี้แล้ว Pivot Table สามารถแสดงคำตอบที่เป็นตัวเลข แต่ไม่สามารถหาคำตอบที่เป็นตัวอักษร (ทำได้แต่ยากมาก) และหากต้องการควบคุมระบบการคำนวณที่ซับซ้อน ให้มั่นใจว่าถูกต้องอย่างแท้จริงต้องใช้เครื่องมือที่ชื่อ Power Pivot มาช่วย ซึ่งเป็นสูตรคำนวณที่มีวิธีสร้างและใช้งานต่างจากสูตรใน Excel อย่างสิ้นเชิง สูตรใน Power Pivot มีชื่อเรียกว่า DAX Formula (Data Analysis Expressions)

ความสามารถในการ Pivot หรือหมุนโครงสร้างตาราง แม้เป็นข้อดีแต่ก็เป็นข้อเสียไปในตัว เพราะเมื่อโครงสร้างตารางเปลี่ยนแปลงต่างไปจากเดิม ผู้ใช้งานย่อมต้องเสียเวลาหาตำแหน่งของตัวเลขที่ตนเองต้องการใหม่ตามไปด้วยทุกครั้ง ยิ่งใช้หน้าจอเล็กของโน้ตบุ้คหรือจอมือถือ ยิ่งหาค่าที่ต้องการยากมาก


4. คู่มิตรคู่ศัตรูของ Pivot Table

ตารางฐานข้อมูลที่จะนำไปใช้สร้าง Pivot Table ได้นั้นต้องมีคุณสมบัติครบทั้ง 3 ข้อ ต่อไปนี้

  1. หัวตารางด้านบนสุดและแต่ละรายการ ต้องใช้ row เดียวเท่านั้น ห้าม merge
  2. ห้ามเว้นว่างในเซลล์ข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญที่บ่งบอกว่าเป็นรายการเรื่องอะไร รหัสอะไร เมื่อไหร่ ของใคร
  3. ห้ามนำตารางฐานข้อมูลไปติดกับข้อมูลอื่น ต้องเว้นไว้อย่างน้อย 1 เซลล์รอบข้าง

แทนการ Merge อาจใช้ Format แบบ Center Across Selection มาช่วย แต่ถ้าไม่จำเป็นอย่าใช้กับตารางฐานข้อมูลเลยจะดีกว่า ขอให้ข้อมูลในเซลล์หนึ่งๆมีบรรทัดเดียว row เดียวเหมาะที่สุด

หลังจากสร้าง Pivot Table แล้ว ในพื้นที่ตารางฐานข้อมูล ห้ามแก้ไขข้อความที่เป็นหัวตารางด้านบน (Field Name) ห้าม Insert column แทรก หรือสลับ column


5. วิธีเตรียมปรับปรุงฐานข้อมูลให้ใช้กับ Pivot Table ได้สบายมาก

เมื่อกดปุ่ม F5 > Special จะช่วยในการค้นหาข้อมูลประเภทต่างๆว่าเป็นช่องว่าง ตัวเลข ตัวอักษร หรือสูตร โดยมีหลักการว่าถ้าเลือกเซลล์เดียวจะค้นหาพื้นที่ทั้งตาราง หากต้องการให้ค้นหาแค่ช่วงพื้นที่ไหนให้เลือกเซลล์เฉพาะพื้นที่นั้นไว้ก่อนแล้วจึงกดปุ่ม F5

หากต้องการเติมเซลล์ว่างให้มีข้อมูลตามเซลล์ด้านบนที่ติดกัน มีขั้นตอนดังนี้

  1. เลือกพื้นที่รอบๆเซลล์ที่เป็นเซลล์ว่างไว้ด้วย
  2. กดปุ่ม F5 > Special > Blanks
  3. พิมพ์เครื่องหมาย = แล้วคลิกเซลล์ที่ติดกันด้านบนเซลล์ว่างนั้น (ถ้าต้องการเปลี่ยนเซลล์ว่างให้เป็นเลข 0 แทน ให้พิมพ์เลข 0 แทนเครื่องหมาย =)
  4. กดปุ่ม Ctrl+Enter ซึ่งจะได้สูตรสร้างลงไปทุกเซลล์ว่างพร้อมกัน
  5. ทำลายสูตรให้กลายเป็น value โดยสั่ง copy แล้ว paste special แบบ value

6. พื้นฐานระบบการคำนวณของ Pivot Table

Pivot Table เป็นคำสั่งมหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่า Excel จะลัดหาคำตอบมาให้ ส่วนคำตอบที่ได้นั้นจะถูกต้องหรือไม่ ถ้าใช้ข้อมูลตัวเลขหลายหลัก มีหลายรายการ ย่อมยากจะดูออกว่าถูกหรือผิด ซึ่งในโลกนี้คนที่เก่ง Pivot Table มากๆและเป็นคนที่อยู่ในทีมสร้าง Pivot Table ให้กับไมโครซอฟท์ยังบอกว่า ไว้ใจไม่ค่อยได้เลย

แทนที่จะมาเรียนการสร้าง Pivot Table จากตารางขนาดใหญ่ ใช้ตัวเลขของจริง แต่ดูด้วยตาแล้วบวกเลขในสมอง นำมาเปรียบเทียบตัวเลขที่ Pivot Table หามาให้ไม่ไหว ดูไม่ออกว่าผลลัพธ์ที่ได้มานั้นมาจากไหน ถูกหรือผิด เราควรเริ่มต้นเรียนรู้จากตารางตัวเลขง่ายๆก่อนดีกว่า เมื่อใช้จนเข้าใจและมั่นใจแล้วจึงเลื่อนไปใช้กับฐานข้อมูลของจริงหรือมีขนาดใหญ่


7. วิธีสร้าง Pivot Table ที่มั่นใจว่าได้ข้อมูลมาครบถ้วน
โดยไม่จำเป็นต้องจิ้มลงไปในตารางฐานข้อมูลให้เสียเวลา

วิธีเลือกพื้นที่ตารางขนาดใหญ่ โดยจำไว้ว่าปุ่ม Ctrl หมายถึงการทำซ้ำ ปุ่มเครื่องหมาย * หมายถึงอะไรก็ได้ ปุ่มเครื่องหมายจุด . แปลว่าถึง

เริ่มจากคลิกลงไปในตารางข้อมูลแล้วกดปุ่ม Ctrl+* จะเลือกพื้นที่ทั้งหมดพร้อมกัน หากต้องการตรวจสอบของเขตตารางให้กดปุ่ม Ctrl+. ไปเรื่อยๆ จะย้ายตำแหน่งเพื่อแสดงหัวมุมตารางแต่ละมุม

การตั้งชื่อ Range Name เพื่อใช้กับ Pivot Table ให้ใช้ช่อง Name Box เพื่อตั้งชื่อ Range Name ให้กับพื้นที่ตารางทั้งหมดรวมทั้งหัวตารางด้วย โดยแนะนำให้ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ใช้อักษรตัวใหญ่ผสมกับตัวเล็ก ห้ามเว้นช่องว่าง เมื่อต้องการไปที่ชื่อให้เลือกชื่อที่แสดงในช่อง Name Box หรือจะกดปุ่ม F5 ซึ่งจะแสดงชื่อที่มีอยู่ให้เลือกได้ตามต้องการ

เมื่อสร้าง Pivot Table ให้กดปุ่ม F3 เพื่อเลือกชื่อตารางที่ตั้งไว้


8. วิธีจัดการกับ Pivot Table เมื่อจำนวนรายการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

การใช้ Table ช่วยนี้เหมาะกับกรณีที่ฐานข้อมูลมีจำนวนรายการเพิ่มขึ้นเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะใช้แล้วมีการลบรายการทิ้งหรือมีจำนวนรายการลดลง เพราะขอบเขตของ Table จะไม่ลดตาม


9. วิธีจัดกลุ่มย่อยให้เป็นกลุ่มใหญ่เพื่อดูยอดได้ง่ายขึ้น


10. วิธีจัดกลุ่มข้อมูลตามระยะเวลาโดยอัตโนมัติ


11. เมื่อสูตร VLookup Match Index ดึงค่าจาก Pivot Table ไม่ได้แล้วจะทำยังไง


12. วิธีแต่งหน้าเสริมสวยให้ Pivot Table

หวังว่าจะไม่ผิดหวังนะครับที่ไม่ได้แนะนำวิธีการแต่งให้สวยมากไปกว่านี้ เรื่องสวยงามเนี่ยต้องเปลืองเวลาอย่างมาก แก้แล้วแก้อีก ถูกใจเราแต่ไม่ถูกใจเขา ที่สำคัญที่สุด ต้องคิดไว้เสมอว่า ที่ทำงานอยู่ไม่ใช่โรงเรียนศิลปะ จะแต่งใช้สีสรรค์อะไรก็อย่าให้เกินงาม แต่ละบริษัทควรกำหนดมาตรฐานของสีและ Font ที่ใช้ประจำ พอคนภายนอกเห็นจะได้เอ่ยปากชมว่า ที่นี่มีมาตรฐานดีจัง


13. วิธีสร้าง Slicer ซึ่งช่วยในการเลือกข้อมูลได้สะดวกกว่า Filter

Slicer ช่วยทำให้เลือกประเภทข้อมูลได้ง่ายขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังไม่เหมาะกับข้อมูลที่มีมากมายหลายประเภทอยู่ดี กว่าจะเลื่อนจนเจอไม่ง่ายเลย ทางที่ดีกว่านั้นควรฝึกใช้สูตร SumIF, SumIFs, SumProduct เพื่อหายอดที่ต้องการได้โดยตรง ซึ่งเรื่องนี้จะสอนในหลักสูตรถัดไป “วิธีสร้างรายงานสำหรับผู้บริหาร”


14. แนะนำเครื่องมือที่ใช้ล้ม Pivot Table
เพื่อหาคำตอบได้สะดวกกว่าสำหรับผู้บริหาร

Data Table เป็นเครื่องมือที่มีมานานแล้วก่อนที่จะมี Pivot Table เสียอีก แต่น้อยคนนักที่จะใช้เป็น เมื่อเราสร้างสูตรหาคำตอบหนึ่งได้แล้ว ควรใช้ Data Table หาคำตอบอื่นตามโดยไม่ต้องสร้างสูตรใหม่

ส่วนการใช้ Pivot Table ไม่เหมาะกับการนำตารางที่เป็นสูตรที่คำนวณต่อเนื่องมาใช้เป็นฐานข้อมูล เพราะเมื่อสั่ง Refresh จะเสียเวลานานมากกว่าจะได้คำตอบ

Pivot Table เหมาะที่จะใช้กับตารางฐานข้อมูลที่มีค่าเป็น Value

นอกจาก Data Table แล้ว การใช้สูตรคำนวณยังช่วยหาคำตอบให้ผู้บริหารได้ยืดหยุ่นกว่า Pivot Table อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลเหล่านั้นกระจายอยู่ในแฟ้มอื่นหรือชีทอื่น ข้อเสียที่แย่ที่สุดของ Pivot Table ก็คือต้องพึ่งพาตารางฐานข้อมูลที่เป็นตารางติดกันอยู่ในชีทเดียวกันนั่นเอง

วิธีซ่อนรายการซ้ำ

เดิมรหัสใน column B มีรายการซ้ำกันอยู่ หากจะทำให้รหัสที่ซ้ำกันกับตัวบนหายตัวไป อย่าไปลบรหัสที่ซ้ำทิ้งนะครับเพราะจะทำให้ขาดตัวชี้บอกว่ารายการนั้นเป็นรหัสอะไร แต่ให้ใช้วิธีซ่อนให้หายตัวไปจากการมองเห็นตามภาพใน column D โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เลือกพื้นที่รายชื่อรหัสตั้งแต่รายการแรกจนถึงรายการสุดท้าย D3:D14
  2. ใช้คำสั่ง Conditional Formatting แบบ Use a formula แล้วสร้างสูตร =D3=D2 ลงไปเพื่อตรวจสอบเงื่อนไขว่าเป็นรหัสที่เหมือนกันกับตัวบนหรือไม่
  3. กำหนด Format ให้สีฟอนต์กับสีพื้นเป็นสีเดียวกันหรือต่างกันเล็กน้อยพอให้เห็นจางๆตามภาพ

Free Excel Expert Training Videos

เรียนออนไลน์ ฟรี 4 หลักสูตร

  1. เตรียมพร้อมเครื่อง เตรียมพร้อม Excel
  2. จับประเด็นการใช้สูตรติดไม้ติดมือ (IF And OR Choose Vlookup Match Index CountIF SumIF SumArray SumProduct)
  3. สารพัด Free สารพัด File แจกฟรี (รวมลิงก์สำคัญเพื่อชมวิดีโอหรือ download)
  4. เปิดโลกนอกห้องเรียน (ชมวิดีโอที่สอนให้กับ SCG)

เชิญคลิกที่ภาพเพื่อเข้าเรียนแต่ละหลักสูตร โดยหลักสูตร 01-02 เป็นเนื้อหาส่วนกลางที่จำเป็นในการทำงานและควรเรียนรู้ก่อนหลักสูตรอื่น

คลิกที่ภาพด้านล่างนี้ เพื่อไปสมัครเรียนออนไลน์ ราคาพิเศษ ได้เรียน 10 + 1 หลักสูตร

Smart Filter

Filter เป็นเครื่องมือที่นำมาใช้งานกันแทบทุกคน ช่วยในการกรองหารายการที่ต้องการ แต่ทุกอย่างที่มีคุณประโยชน์ หากใช้ไม่เป็น นำไปใช้แบบไม่ฉลาดย่อมเกิดผลเสียได้เสมอ

แทนที่จะหลับหูหลับตาใช้ Filter มาหาทางใช้ Filter แบบเปิดเผยเงื่อนไขที่ใช้ให้เห็นกันดีกว่า

Download ตัวอย่างได้จาก https://drive.google.com/file/d/1-hFLx2xZY_XdTJCi2YlF_eO1RHitdKlr/view?usp=sharing

ตัวอย่างนี้เป็นส่วนหนึ่งของ หลักสูตรฉลาดใช้สารพัดสูตร Excel อย่างมืออาชีพ

เชิญดูเนื้อหาได้จาก https://www.excelexperttraining.com/online/download/formula.pdf

ไม่ใช่ IT Support แล้วจะเป็นหน้าที่ใคร

เวลาติดปัญหา Excel ขึ้นมา เรามักจะหันไปถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์เพราะเข้าใจผิดว่าเขาต้องมีความรู้ Excel มากกว่าคนอื่นในบริษัท

ซึ่งความคิดเช่นนี้ไม่ได้มีแต่ผู้ใช้ Excel หากยังเป็นความเข้าใจผิดของผู้บริหารอีกด้วย ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ๆอาจมีหน่วยงาน IT Support หรือ Help Desk ที่ตั้งแยกขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ส่วนบริษัทเล็กมักมีพนักงานเพียงคนเดียวทำหน้าที่ดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือใหญ่ สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานนี้กลับต้องรับภาระจิปาถะ ทุกอย่างที่ขึ้นชื่อว่าใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะมีสายหรือไร้สาย มีปุ่มหรือไม่มีปุ่ม ไปๆมาๆอะไรก็ตามที่ใช้ไฟฟ้าก็หนีไม่พ้นหน้าที่ของ IT Support

ปัญหา Excel ที่ควรเป็นหน้าที่ของ IT Support ควรจำกัดเพียงแค่ปัญหาที่เกิดจากการติดตั้งโปรแกรมให้เหมาะสมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ อาจขยายหน้าที่ให้ความรู้กับผู้ใช้ Excel ในการเปิดปิดโปรแกรมและวิธีจัดเก็บข้อมูลที่ถูกต้อง ช่วยแก้ปัญหาเมื่อเปิดคอมพิวเตอร์แล้ว Excel ไม่ทำงานหรือหน้าจอค้างขึ้นมาหรือพิมพ์ไม่ออกแค่นี้เท่านั้น เว้นแต่จะตั้งหน่วยงานที่ชื่อว่า Excel Support ขึ้นมาโดยตรง

ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกคนต้องเข้าใจพื้นฐานความรู้ของคนที่เรียนมาทางสายคอมพิวเตอร์ว่า เขาอาจจบการศึกษามาทางวิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวคอมพิวเตอร์ หรือวิศวกรรมซอฟต์แวร์ มิใช่ทุกคนที่เรียนรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ธุรกิจและแม้เรียน Excel มาก็เป็นเพียงแค่พื้นฐานเท่านั้น ถึงเรียนมาอย่างละเอียดแต่ไม่ได้นำมาใช้งานบ่อยๆก็ลืม และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครที่เก่งกาจรู้ลึกในทุกโปรแกรมทั้ง Excel, Access, PowerPoint, และ Word ต่อให้ไปถามปัญหา Excel กับเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมที่เคยสอนวิธีใช้โปรแกรมต่างๆให้กับคุณ เขาก็ไม่มีทางรู้ลึกในวิธีการนำ Excel ไปประยุกต์ใช้ในงานด้านต่างๆได้เลย

การฝึกอบรมพนักงานให้เรียนรู้ Excel ให้มากที่สุดมักเป็นนโยบายที่หลายบริษัทใช้กันแต่ต้องหาขอบเขตให้ชัดเจนด้วยว่าต้องใช้ Excel เป็นแค่ไหนจึงจะพอและจำเป็นต้องอบรมทุกคนที่ใช้ Excel หรือไม่ กว่าพนักงานจะนำความรู้ที่เรียนไปลองผิดลองถูกจนสามารถสร้างงานที่ใช้การได้ต้องเสียเวลานาน ถ้าปล่อยให้พนักงานสร้างแฟ้มขึ้นมาใช้กันเองแบบตัวใครตัวมันย่อมทำให้ขาดมาตรฐานและยังเสี่ยงที่จะสร้างสูตรผิดขึ้นมาใช้งานโดยไม่รู้ตัว

หากผู้บริหารต้องการสร้างหน่วยงาน IT Support ให้ทำหน้าที่ช่วยตอบปัญหา Excel ได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นบุคคลที่เชี่ยวชาญเป็น user specialist เฉพาะ Excel โดยดึงพนักงานที่แสดงฝีมือด้าน Excel ขึ้นมาทำหน้าที่นี้อย่างน้อย 2 คน(เพื่อมีตัวแทนกันได้)แล้วพยายามส่งเสริมพัฒนาความรู้ความสามารถให้เต็มที่ นอกจากจะทำหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้แล้วยังรับหน้าที่สร้างแฟ้ม Excel ให้คนอื่นนำไปใช้ต่อ จะช่วยทำให้มีมาตรฐานในการสร้างงานและลดภาระค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงานได้อย่างมาก โดยให้ความรู้พนักงานทั่วไปเพียงแค่รู้จักใช้แฟ้ม Excel ให้ถูกต้องต่อไปก็พอแล้ว

Average สูตรลัด อันตราย

Average สูตรหาค่าเฉลี่ยจากเซลล์ตัวเลข เป็นสูตรที่นิยมใช้กันมาก แต่ผมเองแทบไม่ใช้สูตร Average เลยครับ ทำไมไม่ควรใช้ หรือจะใช้ต้องระมัดระวังอะไรบ้าง หรือจะหาค่าเฉลี่ยแบบไหนดี

จากภาพนี้
1, 2, 3, 4, 5 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3
1, ว่าง, 3, ว่าง, 5 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3
1, 0, 3, ว่าง, 5 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.25
1, 0, 3, 0, 5 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.8
1, ‘2, 3, aaaa, 5 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3

ที่น่าห่วงที่สุด คือ กรณีที่ 2 ซึ่งมีช่องว่างแทรกอยู่ กับกรณีที่ 4 เมื่อลิงก์ค่าไปหาค่าเฉลี่ย จะทำให้เซลล์ที่เป็นช่องว่างที่ลิงก์มากลายเป็นเลข 0

ส่งผลทำให้ค่าเฉลี่ยที่คำนวณจากตารางฐานข้อมูลโดยตรง ได้คำตอบต่างจากค่าที่ลิงก์ไปใช้ต่อ ดังนี้

1, ว่าง, 3, ว่าง, 5 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3
เมื่อสร้างสูตรลิงก์ไปใช้ต่อจะกลายเป็น
1, 0, 3, 0, 5 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.8

แทนที่จะใช้สูตร Average แนะนำให้หายอดรวมมาตั้งหารด้วยจำนวนนับ โดยจำนวนนับนั้นให้หาจำนวนโดยแล้วแต่ว่าจะนับอะไรบ้าง

ทำไมต้องเรียน Excel แบบออนไลน์ด้วย

“ทำไมต้องเรียน Excel แบบออนไลน์ด้วย?

วิดีโอยูทูปมีเยอะแยะ หาจาก google หรือถามที่ fb ก็ได้…ไม่เห็นต้องไปจ่ายเงินเรียนเลย

ชมผลโพลล์ลงความเห็นจากสมาชิกในกลุ่มคนรัก Excel ตามภาพครับ

ปล หัวข้อการถามปัญหาได้ทันทีนั้น ต้องเป็นการเรียนออนไลน์แบบสอนสดนะครับ ซึ่งเท่าที่ทราบจะย้อนไปดูวิดีโอสอนสดนั้นเพื่อทบทวนได้หรือไม่นั้น ไม่ได้ทำได้เสมอไป ขึ้นกับการสอนสดว่าผู้สอนจะทำวิดีโอไว้ให้ทบทวนได้ด้วยหรือไม่

ผมขอเสริมว่า ผลจากโควิดจะทำให้หลีกเลี่ยงการส่งคนเข้าเรียนแบบกลุ่มหรือแบบ In-house ทำให้ทุกคนต้องขวนขวายหาทางเรียนแบบออนไลน์กันเองมากขึ้น หลายบริษัทเริ่มติดต่อมาเพื่อให้พนักงานได้เรียนออนไลน์ ในอนาคตหากจะมีการเข้าเรียนแบบกลุ่ม การเรียนการสอนก็จะเปลี่ยนจากการเรียนวิธีใช้ Excel ทีละขั้น ไปเป็นการถามตอบหรือเรียนเพื่อแก้ปัญหา

เวลาเห็นแถบสีเหลืองใต้เมนู อย่ามือไวใจเร็วคลิก Enable นะครับ

ตอนที่เปิดแฟ้ม ถ้าพบว่ามีแถบสีเหลืองแสดงขึ้น แสดงว่าในแฟ้มที่กำลังจะเปิดขึ้นมาใช้งานนั้น อาจจะมีอะไรที่น่าสงสัย น่ากลัว น่าจะส่งผลที่ร้ายแรง น่าจะมีไวรัสติดไว้ในแฟ้ม หรือว่ากันง่ายๆก็คือ “แฟ้มนี้อาจจะไม่ปลอดภัย”

แถบสีเหลืองนี้จะเตือนขึ้นมาเมื่อแฟ้มนั้นได้มาจากการส่งต่อกันมาทางอีเมล หรือมีการลิงก์ข้ามแฟ้ม หรือเป็นแฟ้มเก่าที่สร้างจาก Excel รุ่นโบราณ หรือมีรหัส VBA ติดอยู่ โดยจะมีข้อความเตือนต่างกันไป

ที่น่ากลัวที่สุดคือการเตือนตามภาพ หากมือไว คลิก Enable ลงไป ทุกอย่างที่ติดมากับแฟ้มนั้นจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ถ้ามีรหัส VBA ที่เป็นไวรัสก็เท่ากับคุณยอมรับให้ไวรัสนั้นทำงาน ต่อให้มีโปรแกรมจับไวรัสติดตั้งไว้ในเครื่องก็ไม่ช่วยป้องกัน และจะย้อนไป Undo ไม่ได้ด้วย

ถ้าเป็น VBA ที่ใช้คำสั่ง Kill ก็จะลบโฟลเดอร์ทิ้งไปทันทีที่เผลอไปคลิก Enable

น่าเสียดายที่แถบสีเหลืองนี้ไม่ฉลาดพอที่จะเปลี่ยนเป็นแถบสีแดง เพื่อบอกว่า “หยุดก่อน” จะได้คิดให้ดีก่อนคลิก

ดังนั้นก่อนจะคลิก Enable ต้องคิดให้ดีว่า คุณมั่นใจ 100% หรือไม่ว่าแฟ้มนั้นปลอดภัยจริงๆ

บางทีคำเตือนจะไม่บอกอะไรนักเพราะมีหลายอย่างที่ติดมาด้วยทั้ง Macro/Link ต้องเข้าไปตรวจสอบที่ File > Info ว่ามีอะไรบ้างที่ต้องระวัง

เชิญชมวิดีโอเรื่องระบบความปลอดภัย Security Warning ใน Excel ได้จากหลักสูตรเตรียมพร้อมเครื่อง เตรียมพร้อม Excel …. สมัครเรียนฟรีได้จากลิงก์นี้ครับ

https://www.excelexperttraining.com/online/courses/01-excel-ready/

วิธีลดเวลาทำงานที่ใช้ Excel … ในยุควิกฤติโควิด

เวลาที่ใช้ Excel ทำงานที่ว่านี้ ไม่ใช่เวลาที่ Excel ใช้ในการคำนวณ แต่เป็นเวลาที่คุณนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์กำลังใช้โปรแกรม Excel โดยเฉพาะในยุคโควิดนี้ ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ธุรกิจที่จะอยู่รอดได้ต้องหาทางลดค่าใช้จ่าย ต้องลดคน เพิ่มงาน ซึ่งถ้าคุณสามารถสร้างงานได้มากขึ้น แถมใช้ระยะเวลาทำงานลดลง คุณย่อมเป็นความหวัง เป็นที่พึ่งของบริษัท … ไม่ต้องตกงาน

ทำอย่างไรจึงจะลดเวลาที่คุณใช้ Excel

1. ฝึกใช้แป้นพิมพ์ลัด

เรื่องนี้สำหรับผมแล้วแนะนำให้ใช้เป็นแค่ Ctrl+c Copy, Ctrl+x Cut, Ctrl+Shift+* Current Region เพื่อเลือกพื้นที่ตาราง และไม่แนะนำให้ใช้ปุ่มลัดมากนักเพราะถ้าเผลอกดผิดปุ่มแล้ว Excel ทำงานอื่นผิดๆให้โดยไม่รู้ว่าตัวเองเผลอไปกดปุ่มไหนแล้วจะต้องเสียเวลาแก้นานกว่าเดิมเสียอีก

2. ฝึกคลิกขวาแทนการใช้แป้นลัดหรือคลิกที่เมนู

การใช้เมาส์คลิกขวาลงไปตรงไหน Excel จะเปิดจอเล็กๆเตรียมคำสั่งที่พร้อมใช้กับสิ่งที่คลิกลงไปให้เอง เช่น พอคลิกขวาลงไปในเซลล์ก็จะมีคำสั่งเกี่ยวข้องกับเซลล์เปิดขึ้นมาให้เลือก พอคลิกขวาลงไปที่ชื่อชีทก็จะมีคำสั่งเกี่ยวข้องการการใช้ชีทเปิดขึ้นมาให้เลือกใช้

3. กดปุ่ม Enter เพื่อสั่ง Paste หรือใช้แทนการคลิกปุ่ม OK

เมื่อสั่ง Copy หรือ Cut ไปแล้วเมื่อต้องการ Paste ให้เลือกเซลล์ที่ต้องการแล้วกด Enter ลงไปจะทำหน้าที่ Paste ให้ทันที หรือเมื่อคลิกเมนูคำสั่งอะไรก็ตามถ้าใช้มือกรอกลงไปในช่องเสร็จแล้วให้กด Enter แทนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนไปจับเมาส์แล้วคลิกปุ่ม OK

4. กดปุ่ม Enter เพื่อดูว่าสร้างสูตรถูกหรือผิด

ในการสร้างสูตรนั้น มักพบว่าไม่ค่อยกล้ากดปุ่ม Enter กันเพราะไม่มั่นใจว่าสูตรที่สร้างขึ้นนั้นถูกต้องไหม แนะนำว่าอย่ารอข้าที่จะกดปุ่ม Enter จะได้เห็นกับตาว่าได้ผลลัพธ์ตามต้องการไหม

5. ใช้ปุ่ม F3 F4 F5 ให้คล่อง

F3 ใช้สำหรับนำชื่อ Range Name มาใส่ลงไปในสูตรจะได้ลดเวลาไม่ต้องคลิกหาพื้นที่ตารางเอง
F4 ใช้สำหรับทวนคำสั่งสุดท้ายซ้ำ และใช้ใส่เครื่องหมาย $ ลงไปกำกับในตำแหน่งอ้างอิง
F5 ใช้หาว่าอะไรอยู่ตรงไหน

ถ้าบริษัทกำลังคิดตัดสินใจเลือกพนักงานอยู่ล่ะก้อ ขอให้เลือกคนที่สามารถใช้ Excel ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ลองให้สร้างสูตร Sum คำนวณหาคำตอบจากตารางที่มีขนาดใหญ่ๆๆๆๆๆๆๆดูว่าใช้เวลาสร้างสูตรนานมากไหม

อย่าไปมองที่เวลาที่ Excel ใช้ในการคำนวณ เพราะเรื่องนี้แก้ได้ง่ายนิดเดียวโดยหาซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่หรือใช้ Excel รุ่นใหม่ แต่เวลาของลูกน้อง แก้ยากกว่ามาก

เชิญชมวิดีโอแสดงวิธีการลดเวลาที่ใช้งาน เรียนเรื่องเหล่านี้ได้จากหลักสูตรเรื่องรีบรู้เพื่อพร้อมใช้ Excel ทำงานแบบ Fast and Easy

2021-2022 Microsoft Most Valuable Professional

อีกครั้งหนึ่งที่ได้รับรางวัลยกย่องจาก Microsoft ให้เป็น MVP ต่อเนื่องกันรวม 15 ปี

ตอนนี้มี Microsoft Most Valuable Professional ที่เป็นคนไทยเพียง 7 คนเท่านั้น เชิญคลิกไปดูหน้าตาฝีมือคนเก่งชาวไทยกันครับ

https://mvp.microsoft.com/en-us/MvpSearch?kw=thailand

รางวัลที่ผมได้รับนี้ เกิดจากการให้ความรู้กับสังคมไทย จากการเขียนบทความ ช่วยถามตอบปัญหา และช่วงหลังนี้เพิ่มวิดีโอเรียนแบบออนไลน์ให้อีก บางคนอาจได้เป็น MVP จากการนำเสนอความรู้ทางสื่ออื่น

ช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่จะได้รับการเสนอให้เป็น MVP ต้องทำตามกฎ Microsoft Code of Conduct ซึ่งเน้นจรรยาบรรณ ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม การออกความเห็นที่ให้เกียรติกับผู้อื่น ต้องระวังการแชร์หรือเขียนให้ความเห็น ห้ามนำรางวัลนี้ไปอวดอ้างเกินหน้าเกินตามากไป … ปีนึงเลยขออวดแค่ครั้งเดียวเนี่ยล่ะครับ

ใครที่เคยเป็น MVP ต้องระบุให้ชัดไว้ด้วยว่าเป็น MVP ในปีใดบ้าง เพราะเป็นรางวัลแบบปีต่อปี

Microsoft Code of Conduct นี้ น่าจะนำมาเป็นแนวทางการให้รางวัลหรือใช้เลือกคนเข้าทำงานในยุคที่ใช้สื่อโซเชียลนี้เป็นอย่างยิ่งครับ

https://mvp.microsoft.com/en-us/Pages/mvp-code-of-conduct

  • Be respectful and inclusive
  • Lead with empathy
  • Be friendly, open, and welcoming
  • Be thoughtful

MVP ที่เป็นฝรั่งคนหนึ่ง พอลงจากเวทีที่เขาขึ้นไปพรีเซนต์ในงานประชุมของ Microsoft ก็ถูกแจ้งปลดออกทันที เพราะเขาเผลอนำรูปภาพที่ไม่เหมาะสมขึ้นไปแสดง