"คุณอยากได้หัวหน้าแบบไหน?" สมัยอายุ 30 ต้นๆ ผมถูกถามในการสัมภาษณ์เข้าทำงาน
ผมตอบไปว่าอยากได้หัวหน้าที่ใช้ Excel เป็น .... ผลก็คือ สอบตก
เท่าที่จำได้ตอนนั้นผมตอบอธิบายกลับไปว่า ถ้าหัวหน้าใช้ Excel เป็นจะสามารถสั่งงานที่ใช้ Excel ได้ถูกต้องและเข้าใจความยากง่ายที่ลูกน้องสร้างงานให้ ส่วนสาเหตุที่สอบตก ไม่แน่ใจว่าเพราะคำตอบนี้หรือเปล่า
ถ้าตอนนี้ผมไปสมัครงาน ถูกถามแบบนี้แล้วผมตอบแบบนี้อีก ก็น่าจะสอบตกอีกนั่นแหละ เพราะโอกาสที่จะได้เจอหัวหน้าที่รัก Excel เป็นชีวิตจิตใจนั้นน้อยมาก ถ้าหัวหน้าในอนาคตของผมนั่งอยู่ในห้องสอบสัมภาษณ์นั้นด้วยแล้วเขาใช้ Excel ไม่เป็นก็เท่ากับคำตอบของผมทำให้เขาเสียหน้า แต่ถ้าเขาใช้ Excel พอเป็นบ้างก็ไม่แน่อีกว่าคำว่าเป็นของเขากับของผมนั้นเข้าใจตรงกันหรือเปล่า
ในอีกงานหนึ่ง คราวนี้ผมผ่านเข้าไปทำงานได้แล้ว หัวหน้าของผมพูดออกมาว่า "พี่รู้ดีนะว่า Excel เนี่ยยากขนาดไหน" ผมฟังแล้วรู้สึกหมดแรงจะทำงานให้เลยล่ะ พูดในใจว่า พี่ไม่เคยใช้ Excel อย่างจริงจัง แล้วจะทราบได้ยังไงว่ายากของพี่กับยากของผมต่างกันแค่ไหน
ถ้าใครเป็นหัวหน้า ไม่ควรพูดแบบนี้นะครับ เป็นคำพูดที่สะเทือนใจมาก เว้นแต่จะเป็นหัวหน้าที่เก่ง Excel กว่าลูกน้อง
พอผมเลิกจากการเป็นวิทยากรพิเศษให้กับสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) ที่สอนในห้องใหญ่รับผู้เข้าอบรมทีละ 25-30 คน เปลี่ยนมาเปิดสอนแบบส่วนตัวกลุ่มเล็กไม่เกิน 6 คน พบว่าหลายคนอยากมาเรียนเพราะ ไม่อยากสอบตกเหมือนกันทั้งๆที่ทำงานอยู่แล้ว
บางคนผ่านการสมัครงาน เพิ่งเข้าทำงานแล้วเจอของแข็ง ไม่สามารถแกะแฟ้มที่หัวหน้าใหม่ยกมาให้ใช้
บางคนอวดไว้เยอะมากตอนสอบสัมภาษณ์ว่าจะเข้ามาปรับปรุงระบบที่ใช้ Excel ให้ดีขึ้น แต่พอเข้าทำงานจริงก็เจอระบบงานที่ยากเกินคาดคิด
บางคนถูกมอบหมายงานของคนอื่นมาให้เพราะบริษัทปรับลดกำลังคน ยุบรวมหน่วยงาน ต้องรับแฟ้มงานมาทำต่อ มองไม่ออกว่าจะเริ่มต้นที่ตรงไหน
นอกจากนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจากการเรียนออนไลน์ที่ไม่ต้องเห็นตัวกันนี่แหละ บางคนบอกว่าพอได้เรียนไปก็สามารถนำความรู้ที่ผมสอนไปช่วยในงานที่เคยทำกันมาตลอดแบบงั้นๆ
ตอนนี้เธอกลายเป็นดาวเด่นในที่ทำงานไปแล้วเพราะช่วยลดขั้นตอนให้เหลือนิดเดียว สามารถใช้ Excel ตอบปัญหาที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อน เรียกว่าวิธีที่คนอื่นกำลังใช้ Excel ทำงานอยู่เดิมนั้น ทุกคนที่ทำอยู่ ไม่รู้ตัวว่าสอบตก
