เพื่อมุ่งให้เกิดคุณภาพจากการอบรมสูงสุด Excel Expert Training ให้การอบรม Excel กลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 6 คนทุกคนสามารถเรียนรู้ Excel อย่างใกล้ชิด จะมาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่มแล้วนัดวันอบรมแบบส่วนตัวก็ได้
ผู้เข้าอบรมทุกคนสามารถติดตามเนื้อหาที่อบรมได้อย่างชัดเจนจากจอภาพด้านหน้าของตัวเอง
-

Originally Posted by
Verapansk
ผมได้ลองทำความเข้าใจไฟล์ของครูเอก ที่คุณexcel_fever ส่งมาให้ดูแล้ว ตรงกับที่ต้องการเลยครับ
แต่พอลองปรับให้เข้ากับรูปแบบฐานข้อมูลที่ผมใช้ โปรแกรมไม่ทำงานให้ได้
ผลเหมือนของครูเอกครับ
ผมแยกชีทของครูเอก โดยนำข้อมูลชื่อโรงแรมไปไว้อีกชีทต่างหาก เพื่อสมมติให้เหมือนของผมเนื่องจากมีข้อมูลจำนวนมาก โปรแกรมทำงานไม่ได้ ผมปรับสูตรไม่ถูกครับ
รบกวน ขอคำแนะนำด้วยครับ
ฟังก์ชั่นบางตัว เช่น Cell ผมเปิดตำราดูแล้ว ยังไม่เข้าใจการทำงาน
ยังไงก็ขอตัวอย่างใส่ไฟล์แนบด้วยนะครับ
ผมแนบไฟล์ที่ทำไว้มาไม่ได้ครับ ขนาดใหญ่เกิน ไม่ทราบจะแนบอย่างไรครับ
หากเป็นเป็นได้รบกวน ใช้ไฟล์ของครูเอกก็ได้ครับ เพียงนำเอารายชื่อโรงแรมไปไว้อีกชีทเท่านั้นครับ
ขอบคุณมากครับ
วีระพันธ์
เพิ่งมาเห็นว่า มีการอ้างถึงไฟล์ตัวอย่างของผมด้วย ลองย้อนไปดู ก็ชักจะจำไม่ค่อยได้แล้วว่า ตอนนั้นคิดไว้อย่างไร แต่จากที่บอกว่า "เมื่อแยกชีท โดยนำข้อมูลชื่อโรงแรมไปไว้อีกชีทต่างหากแล้ว โปรแกรมทำงานไม่ได้นั้น" ผมทดลองดูแล้วพบว่า มันก็มีทั้งที่ "ได้" และ "ไม่ได้"
ที่ "ได้" ก็คือ การค้นหาและแสดงผลยังทำได้ปกติ ให้ลองทำตามนี้คือ
1. Cut ช่วง A1:C1 ไปวางที่ D1:F1
2. Cut ทั้งคอลัมน์ A:C ไปวางที่ชีทใหม่
3. สูตรต่างๆ ที่อ้างอิงชีทและตำแหน่ง ก็จะปรับให้อัตโนมัติ (แต่ถ้ามีการขยับบรรทัด ก็ต้องปรับสูตรเล็กน้อย เนื่องจากใช้ฟังก์ชัน ROW()-2 โดยปรับให้ตรงกับแถวจริง)
แต่เมื่อทำดังข้างบนแล้ว สิ่งที่ไม่ทำงานก็คือ HyperLink (จริงๆ มันทำงานครับ แต่ลิงค์ไปผิดชีท) เนื่องจากในสูตรในฟังก์ชัน CELL("Filename") ซึ่งอ้างอิงถึงชีทปัจจุบัน มันก็เลยยังลิงค์ไปยังเซลล์ในชีทปัจจุบัน (เดี๋ยวมีเวลาจะลองดูอีกทีครับ)
-
เปิด Hyperlink ไม่ได้ครับ

Originally Posted by
excel_fever
ผมลองตามเข้าไปศึกษาแฟ้มของครูเอกแล้วไม่สามารถเปิด Hyperlink ได้ครับ โดยจะขึ้นข้อความว่า "ไม่สามารถเปิดแฟ้มที่ระบุได้" ไม่ทราบว่ามีใครเจอปัญหาเหมือนผมบ้างครับ
-
ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ
ผมลองทำอยู่หลายชั่วโมงซึ่งปรับแต่งจากไฟล์ของครูเอก แล้วใช้vlookup ออกมาได้อย่างที่ต้องการแล้วครับ สูตรส่วนใหญ่ผมลอกจากของครูเอกมาเลย ซึ่งผลตรงกับที่คุณJoJo แนะนำเลยครับ ขอบคุณมากๆครับ ฐานข้อมูลเยอะจำนวนเกือบ80000บรรทัด เลยต้องแยกสองชีท เวลาVlookup ใช้เวลาอยู่ครับ
แต่ตอนนี้ เกิดปัญหาตอนที่ vlookup กลับ แสดง#NA เป็นเฉพาะช่วงบางช่วง บางช่วงก็ไม่เป็นไร ไม่แน่ใจว่าการตั้งค่าฟอร์แมทเซลจะเกี่ยวหรือเปล่านะครับ ยังไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ผมลอกสูตรลงมา จะลองหาดูอีกทีแล้วจะแจ้งผลให้ทราบครับ
ขอบคุณมากครับ
วีระพันธ์
-
ขอคำอธิบายสูตรที่ใช้
คุณ JoJo ครับ
ผมศึกษาสูตรที่คุณ JoJo ใช้ VLOOKUP($K3,$A:$F,L$1,FALSE),"")
ไม่เข้าการใช้ในลักษณะนี้เลยครับ(เคยแต่แบบVLOOKUP($C$19,$C$3:F7,1,FALSE)) ในL1 to O1 มีใส่เลข 3 4 5 6 ด้วย พอเอาออก VLOOKUP จะแสดง #VALUE เพราะอะไรครับ
ไม่เข้าใจครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
วีระพันธ์
-
ตอบคุณวีระพันธ์

Originally Posted by
Verapansk
คุณ JoJo ครับ
ผมศึกษาสูตรที่คุณ JoJo ใช้ VLOOKUP($K3,$A:$F,L$1,FALSE),"")
ไม่เข้าการใช้ในลักษณะนี้เลยครับ(เคยแต่แบบVLOOKUP($C$19,$C$3:F7,1,FALSE)) ในL1 to O1 มีใส่เลข 3 4 5 6 ด้วย พอเอาออก VLOOKUP จะแสดง #VALUE เพราะอะไรครับ
ไม่เข้าใจครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
วีระพันธ์
คำถามแรก ทำไมถึงมี comma และ เครื่องหมาย "" อยู่หลังสูตร vlookup อีก
ตอบ จริง ๆ แล้ว comma และ "" ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสูตร vlookup ด้านซ้ายครับ แต่เป็นส่วนของสูตร IF ที่ครอบสูตร vlookup นี้อยู่ครับ
=IF( $K3<=$I$2 , VLOOKUP($K3,$A:$F,L$1,FALSE) , "") หมายถึง ถ้าค่าในเซล K3 น้อยกว่าหรือเท่ากับค่าในเซล I2 ให้คำนวณโดย
ใช้สูตร vlookup นั้น แต่ถ้า ค่าในเซล K3 มากกว่า ค่าในเซล I2 ให้แสดงค่าว่าง ซึ่งแทนด้วยเครื่องหมาย "" ครับ
คำถามที่สอง 3 4 5 6 คืออะไร
ตอบ 3 4 5 6 คือ column ที่เท่าไหร่นับจาก column ที่เราใช้อ้างอิงในสูตร vlookup
ในที่นี้เราอ้างอิง column A ค่าที่เราจะนำมาแสดงอยู่ใน column C ถึง F ซึ่งก็คือ column ที่ 3 ถึง 6 นับจาก column A ครับ
คำถามที่สาม ทำไมเอา 3 4 5 6 ออกแล้ว สูตรจึงแสดงผล #VALUE
ตอบ เพราะเหตุผลในข้อสอง เมื่อเราไม่ได้ระบุว่าเราจะเอาค่าใน column ใดมาแสดง สูตร vlookup มี argument ไม่ครบ
ที่จะคำนวณผลลัพธ์ให้เราได้ครับ
-

Originally Posted by
Verapansk
คุณ JoJo ครับ
ผมศึกษาสูตรที่คุณ JoJo ใช้ VLOOKUP($K3,$A:$F,L$1,FALSE),"")
ไม่เข้าการใช้ในลักษณะนี้เลยครับ(เคยแต่แบบVLOOKUP($C$19,$C$3:F7,1,FALSE)) ในL1 to O1 มีใส่เลข 3 4 5 6 ด้วย พอเอาออก VLOOKUP จะแสดง #VALUE เพราะอะไรครับ
ไม่เข้าใจครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
วีระพันธ์
เหมือนว่าคุณ Verapansk ยังไม่เข้าใจการใช้ VLOOKUP เลย ขออนุญาตแนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
-
ลองทำวิธีที่คุณ JoJO แล้วครับ
ผมได้ลองทำวิธีของคุณ JoJo แล้วครับ งานเสร็จเรียบร้อยครับ ขอบคุณมากครับ
เครื่องทำงานได้เร็วกว่าด้วยครับ ผมคาดว่าเนื่องจากมีสูตรน้อยกว่า การทำงานเลยน้อยกว่า
ง่ายกว่าครับ
ขอบคุณครูเอกมากครับ สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติม
วีระพันธ์
-
เรียนถามคุณJoJoครับ
คุณ JoJO ครับ
ที่ผมยังไม่เข้าใจคือ ที่คุณJoJo ใช้ VLOOKUP($K3,$A:$F,L$1,FALSE) บวกกับ การใช้ 3 4 5 6 ครับ
ปกติผมอ้างอิงที่จะ VLookup แบบ แบบVLOOKUP($C$19,$C$3:F7,1,FALSE)) คือ ให้vlookup C19 ใน column C3: F7, แล้วให้เอา ค่าจาก column 1 แสดง
สำหรับที่คุณ JoJo ใช้ ที่ทำให้ผมยังไม่เข้าใจคือ ให้Vlookup K3 ใน A : F โดยไม่ระบุช่วงพิกัด เหมือนที่ผมใช้ ส่วนค่า L1 ปกติผมจะระบุว่าเป็นColumn ไหนที่จะมาแสดง แต่ในสูตรนี้ใช้ L1 กับ เลข 3 4 5 6 ครับ
ส่วน If ผมเข้าใจถูกต้องแล้วครับ ตามที่คุณ JoJo อธิบายมาครับ
ขอบคุณครับ
วีระพันธ์
-

Originally Posted by
Verapansk
คุณ JoJO ครับ
ที่ผมยังไม่เข้าใจคือ ที่คุณJoJo ใช้ VLOOKUP($K3,$A:$F,L$1,FALSE) บวกกับ การใช้ 3 4 5 6 ครับ
ปกติผมอ้างอิงที่จะ VLookup แบบ แบบVLOOKUP($C$19,$C$3:F7,1,FALSE)) คือ ให้vlookup C19 ใน column C3: F7, แล้วให้เอา ค่าจาก column 1 แสดง
สำหรับที่คุณ JoJo ใช้ ที่ทำให้ผมยังไม่เข้าใจคือ ให้Vlookup K3 ใน A : F โดยไม่ระบุช่วงพิกัด เหมือนที่ผมใช้ ส่วนค่า L1 ปกติผมจะระบุว่าเป็นColumn ไหนที่จะมาแสดง แต่ในสูตรนี้ใช้ L1 กับ เลข 3 4 5 6 ครับ
ส่วน If ผมเข้าใจถูกต้องแล้วครับ ตามที่คุณ JoJo อธิบายมาครับ
ขอบคุณครับ
วีระพันธ์
วิธีการใช้ vlookup ของผมต่างจากคุณวีระพันธ์บ้างครับ คุณวีระพันธ์ใช้วิธีการใช้ vlookup ดึงข้อมูลตรงจากตารางฐานข้อมูลเลย
โดยให้ค่าอ้างอิงเป็นข้อมูลที่ต้องการค้นหาโดยตรง
ส่วนตารางที่ผมส่งไปให้นั้น ผมใช้ vlookup ทางอ้อมครับ คือ ผมไปปรับแก้ตารางฐานข้อมูลก่อน (เพิ่ม column A และ B)
แล้วจึงใช้ column K เป็นค่าอ้างอิงแทนครับ
ส่วนการใช้ L1 ก็มี concept เหมือนกับที่คุณวีระพันธ์ทราบคือ argument ตรงส่วนนี้ของ vlookup เป็น "column ที่เท่าไหร่ของตารางฐานข้อมูล" แต่แทนที่จะใช้ค่าคงที่ใส่เข้าไปในสูตรเลย ผมใส่ชื่อเซลอ้างอิงเข้าไปแทนแค่นั้นเองครับ
ค่า 3 4 5 6 ก็คือ column ที่ 3 ถึง 6 ของตารางฐานข้อมูลครับ
การระบุช่วงพิกัด A:F หมายถึง พิกัดที่เป็นตารางฐานข้อมูลของผมก็คือ column A ถึง F ครับ คุณวีระพันธ์สามารถใส่ข้อมูลเพิ่มเติมทาง
ด้านล่างของตารางฐานข้อมูล (A - F) ในชีต database แล้วเรายังสามารถดู result ได้โดยที่ไม่ต้องไปปรับสูตรเพิ่มครับ :smile:
(ลองดูไฟล์ที่แนบมาให้เพิ่มครับ)
-
ให้เรียงข้อมูลจากมากไปหาน้อยด้วยครับ
เรียน คุณ JojO ครับ
ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมครับ ผมได้ลองทำตามที่แนะนำดูแล้วครับ เข้าใจอะไรอีกเยอะเลย
พอทำไปเรื่อย เห็นว่า ข้อมูลที่ดึงมาแสดง ใน Max Q'ty ไม่ได้เรียงจากมากไปหาน้อย ถ้าต้องการให้แสดงทันทีที่ข้อมูลแสดงเลย จะต้องเขียนสูตรได้อย่างไรบ้างครับ ตอนนี้ข้อมูลแสดงตาม ลำดับรายการอยู่ครับ หากใช้ Sorting หน้าตาของชีทจะเปลี่ยนไป
ขอบคุณครับ
วีระพันธ์
Similar Threads
-
By kt collection in forum Excel Expert Forum Library 2012 - 2007
Replies: 4
Last Post: 29 Aug 2010, 18:28
-
By saree in forum Excel Expert Forum Library 2012 - 2007
Replies: 3
Last Post: 17 Sep 2009, 22:39
-
By salesian_51 in forum Excel Expert Forum Library 2012 - 2007
Replies: 1
Last Post: 10 Jun 2008, 13:33
-
By Chowalit02 in forum Excel Expert Forum Library 2012 - 2007
Replies: 4
Last Post: 8 May 2008, 15:35
-
By Thanaporn in forum Excel Expert Forum Library 2012 - 2007
Replies: 2
Last Post: 28 Feb 2008, 08:52
Posting Permissions
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules