ต้องการป้อนตัวอักษรลง List ที่สร้างด้วย validation แล้วปรากฏข้อมูลที่มีตัวอักษรเหมือนใน List

[nink2527]

กระทู้นี้จะเป็นลักษณะคำถามที่คล้ายคลึงกับกระทู้
ต้องการป้อนตัวอักษรใน Drop Down list แล้วข้อมูลที่มีตัวอักษรเหมือนปรากฏใน List
http://excelexperttraining.com/forum...read.php?t=292
ต้องขออภัยด้วยที่ต้องตั้งกระทู้ใหม่เพราะไปโพสต์ในกระทู้เดิมไม่ได้ค่ะ
ถ้าต้องการสร้างรายการให้เลือกด้วย validation ที่สามารถเพิ่มข้อมูลได้
โดยที่เมื่อเลือกรายการแล้วจะต้องไม่มีช่องว่างข้างล่างและไม่มีหัวข้อข้างบนในรายการด้วย
จะต้องทำอย่างไรคะ และถ้าต้องการ
สร้าง validation ที่พิมพ์อักษรสองสามตัวแรก แล้วเด้งข้อมูลที่อยู่ในรายการขึ้นมา
เหมือนลักษณะแบบ Auto fill จะต้องทำอย่างไรคะ
แนบตัวอย่างมาให้ดูด้วยคะ รบกวนให้ความรู้กันด้วยนะคะ

[Arun]

ถ้าต้องการสร้างรายการให้เลือกด้วย validation ที่สามารถเพิ่มข้อมูลได้
โดยที่เมื่อเลือกรายการแล้วจะต้องไม่มีช่องว่างข้างล่างและไม่มีหัวข้อข้างบนในรายการด้วย จะต้องทำอย่างไรคะ

แก้ไข Range name จาก
color=เพิ่มข้อมูล!$A:$A
material=เพิ่มข้อมูล!$C:$C
เป็น
color=OFFSET(เพิ่มข้อมูล!$A$1,1,0,COUNTA(เพิ่มข้อมูล!$A:$A)-1,1)
material=OFFSET(เพิ่มข้อมูล!$C$1,1,0,COUNTA(เพิ่มข้อมูล!$C:$C)-1,1)

[nink2527]

ขอบคุณ คุณ Arun มากนะคะ ที่คอยช่วยตอบปัญหาให้อยู่เสมอ
แต่ขอรบกวนอีกนิดนึงคุณ Arun ยังไม่ได้ตอบคำถามที่ว่า

ถ้าต้องการ
สร้าง validation ที่พิมพ์อักษรสองสามตัวแรก แล้วเด้งข้อมูลที่อยู่ในรายการขึ้นมา
เหมือนลักษณะแบบ Auto fill จะต้องทำอย่างไรคะ

รบกวนคุณ Arun หรือผู้รู้คนอื่น ๆ ช่วยกันตอบหน่อยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

[Arun]

ถ้าต้องการ
สร้าง validation ที่พิมพ์อักษรสองสามตัวแรก แล้วเด้งข้อมูลที่อยู่ในรายการขึ้นมา
เหมือนลักษณะแบบ Auto fill จะต้องทำอย่างไรคะ

ใช้ Pick from list หรือ VBA ตามตัวอย่างครับ

[Arun]

แต่ถ้าใช้ Data Validation เหมือนเดิมต้อง Sort ข้อมูลให้เรียงลำดับจากน้อยไปหามาก
แล้วเพิ่มตัวอักษร ก, ข, … แทรกเข้าไป เช่น
เดิม
ขาว
ขาวนม
เขียวแก่
เขียวขี้ม้า
เขียวตองอ่อน
ชมพู
ชมพูอ่อน
เป็น
ข
ขาว
ขาวนม
เขียวแก่
เขียวขี้ม้า
เขียวตองอ่อน
ช
ชมพู
ชมพูอ่อน
เวลาจะเลือกสีเขียวแก่ ก็พิมพ์ ข แล้วคลิกปุ่ม Validation
หรือถ้าต้องการสีชมพูอ่อนก็พิมพ์ ช เป็นต้น
ในกรณีที่มีรายการมากๆ น่าจะช่วยให้เลือกรายการได้เร็วขึ้นครับ

[nink2527]

ขอบคุณคุณ Arun มาก ๆ เลยค่ะ
ให้ข้อมูลได้ละเอียดและอธิบายให้ด้วย คนมีพื้นฐานเอ็กเซล
ไม่ค่อยแข็งแรงแบบนิ้ง อ่านแล้วก็เข้าใจนะคะ ว่าสูตรอ้างอิงมาจากไหน
ซึ่งก็สามารถปรับและนำไปใช้กับปัญหาที่เจอ ณ ขณะนั้นได้
แต่ทำไมเมื่อเจอกรณีปัญหาคล้าย ๆ กัน นิ้งถึงประยุกต์เองไม่ได้
ต้องรบกวนถามกันอยู่เรื่อย ๆ เลยล่ะคะ อย่าง vlookup ที่แสดงข้อมูลหลาย ๆ
ชีท ที่คุณ Arun เคยแก้มาให้ แต่พอจะมาปรับใช้กับ validation แสดงข้อมูลหลาย ๆ ชีท
ถึงแก้ไม่ได้ ถ้า validation ชีทเดียวใช้ range name ก็ได้แล้ว แต่ถ้าหลาย ๆ ชีทแก้ไม่ได้ค่ะ
มีวิธีไหนบ้างคะ
เกรงใจจังค่ะ ที่ต้องถามกันอยู่บ่อย ๆ ลองแนะนำเป็นบทความหรือตัวอย่างที่
คล้ายคลึงกับปัญหาที่จะถามต่อไปนี้ให้ลองศึกษาวิธีทำดูก่อน
ได้ไหมคะ แล้วถ้าติดตรงไหนจะถามอีก เผื่อจะประยุกต์สูตรเองได้เก่งขึ้น

ปัญหาที่จะรบกวนถามคราวนี้คือ
มีข้อมูลแยกเก็บตามชีท (หรืออาจจะมีแยกเก็บตามไฟล์เป็นประเภท ๆ )
ดังแนบตัวอย่างให้
และต้องการค้นหาข้อมูลตามชื่อลูกค้า
และชื่องาน ของทุกชีท โดยต้องการ
ผลลัพธ์ออกมาเป็นรหัส
จะต้องทำอย่างไรคะ ใช้สูตร vlookup ไม่ได้
เพราะมันจำกัดที่ต้องค้นหาที่คอลัมแรก
แต่ข้อมูลที่จะให้ค้นหานี้อยู่ที่คอลัมสอง
ผลลัพธ์ที่ต้องการให้แสดงอยู่ที่คอลัม 3 และ
คอลัมแรก
ลองใช้หมดแล้วทั้ง INDEX, MATCH,OFFSET, FIND
ก็ยังทำไม่ได้ แต่อาจจะเป็นเพราะตัวเองประยุกต์สูตรไม่เก่ง
เลยทำไม่ได้ ยังไงรบกวนขอความรู้ด้วยนะคะ

[Arun]

ความพยายามอยู่ที่ไหน..ความสำเร็จอยู่ที่นั่นครับ


http://www.excelexperttraining.com/b...es/z000777.php

[Arun]

หรือใส่สูตรที่ C9
=IF(ISERROR(MATCH(C5,Customer,0)),"No Data!",INDIRECT("'"&C7&IF(C7="a",F7,"")&"'!C"&MATCH(C5,Customer,0)+2))

C12 = IF(ISERROR(MATCH(C5,Customer,0)),"No Data!",INDIRECT("'"&C7&IF(C7="a",F7,"")&"'!A"&MATCH(C5,Customer,0)+2))

C25 = IF(ISERROR(MATCH(C21,WorkName,0)),"No Data!",INDIRECT("'"&C23&IF(C23="a",F23,"")&"'!B"&MATCH(C21,WorkName,0)+2))

C28 = IF(ISERROR(MATCH(C21,WorkName,0)),"No Data!",INDIRECT("'"&C23&IF(C23="a",F23,"")&"'!A"&MATCH(C21,WorkName,0)+2))

โดยที่ Range Name
Customer = OFFSET(INDIRECT("'"&find!$C$7&IF(find!$C$7="A",find!$F$7,"")&"'!$A$2"),1,1,COUNTA(INDIRECT("'"&find!$C$7&IF(find!$C$7="A",find!$F$7,"")&"'!$A:$A"))-1,1)

WorkName = OFFSET(INDIRECT("'"&find!$C$23&IF(find!$C$23="A",find!$F$23,"")&"'!$A$2"),1,2,COUNTA(INDIRECT("'"&find!$C$23&IF(find!$C$23="A",find!$F$23,"")&"'!$A:$A"))-1,1)

สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Dynamic Range ได้ที่ http://www.tpa.or.th/xlsiam/coolsecret/roffset.html
และรายละเอียดเกี่ยวกับสูตร Indirect ได้ที่ http://www.tpa.or.th/xlsiam/coolsecret/rindirect.html

[nink2527]

หายไปซะนานไม่ได้มาขอบคุณสำหรับคำตอบ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
เพราะมัวแต่กำลังไปพยายามเพื่อความสำเร็จตามที่คุณ Arun ว่าอยู่ค่ะ
แต่ยังแกะสูตรที่คุณ Arun แก้ให้ไม่ออกเลย เพราะสูตรค่อนข้างซับซ้อนสำหรับคนยังไม่
ชำนาญการซ้อนสูตรอย่างนิ้ง คงต้องใช้เวลา แต่ก็จะพยายามต่อไป
ไม่ให้ความรู้ที่คุณ Arun ให้เสียเปล่าแน่ค่ะ

คำถามที่ต้องการจะรบกวนถามคุณ Arun และผู้รู้ทุกท่าน
คราวนี้ยังคงอยู่ในหัวข้อเกี่ยวกับ validation เหมือนเดิม
สมมติให้ Sheet 1 เซลล์ C:C เป็นเซลล์ที่เก็บข้อมูลลูกค้าปี 2551
Sheet 2 เซลล์ C:C เป็นเซลล์ที่เก็บข้อมูลลูกค้าปี 2552

ต้องการสร้าง validation ที่
1. แสดงข้อมูลลูกค้าทั้งปี 2551 และ 2552
2. ข้อมูลต้องเีรีัียงลำดับตามตัวอักษร (และต้องไม่ใช้การ sorting ที่ Sheet 1 และ 2 ด้วยค่ะ)
้เหมือนกับการใช้ filter ในเซลล์นั้น ๆ น่ะค่ะ พอจะนึกภาพกันออกไหมคะ

ถ้ายังไงจะแนบไฟล์ตามไปให้ทีหลังนะคะ เพราะไฟล์อยู่ที่ทำงานค่ะ

[สมเกียรติ]

ไม่เอาครับ ถ้าถามต่อโดยที่ยังแกะคำตอบเดิมไม่ได้ อย่างนี้ถือว่าเป็นการยกการบ้านของตัวเองให้คนอื่นทำให้

คุณควรหาทางทำเองให้ได้ก่อนบ้างจะเหมาะสมกว่า แล้วค่อยยกส่วนที่ติดปัญหามาถามกัน