เพื่อมุ่งให้เกิดคุณภาพจากการอบรมสูงสุด Excel Expert Training ให้การอบรม Excel กลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 6 คนทุกคนสามารถเรียนรู้ Excel อย่างใกล้ชิด จะมาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่มแล้วนัดวันอบรมแบบส่วนตัวก็ได้
ผู้เข้าอบรมทุกคนสามารถติดตามเนื้อหาที่อบรมได้อย่างชัดเจนจากจอภาพด้านหน้าของตัวเอง
-
แจกแฟ้มหลักสูตรประยุกต์ใช้ Excel เพื่อวางแผน MRP
หลักสูตรประยุกต์ใช้ Excel เพื่อวางแผนความต้องการวัสดุ(Material Requirement Planning)และจัดตารางการผลิต เป็นหลักสูตรที่ผมมีความจำเป็นต้องปิดไปทั้งที่หลักสูตรนี้มีประโยชน์อย่างมาก สามารถวางแผนการผลิตที่มี Multiple Parents และมี BOM หลายชั้นได้ด้วย สามารถปรับเปลี่ยนชื่อและอัตราการใช้วัตถุดิบให้ยืดหยุ่น เท่าที่ทราบไม่มีใครสามารถใช้ Excel ทำเช่นนี้ได้มาก่อน
สาเหตุที่ต้องปิดหลักสูตรนี้เนื่องจากหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่ถือว่ายากที่สุดของผมแต่พบว่าผู้เข้าอบรมไม่ได้ผ่านหลักสูตรพื้นฐานที่ผมกำหนดไว้ก่อนทั้งๆที่ได้แจ้งเงื่อนไขนี้ไว้ในโบร์ชัวเนื้อหาหลักสูตรไว้แล้วก็ตาม อีกทั้งปัจจุบันทางสมาคมได้กำหนดมาตรฐานการอบรมว่าต้องผ่านการประเมินผลที่เกณฑ์ 3.4 จึงทำให้เสี่ยงที่จะอบรมแล้วได้ผลไม่ถึงเกณฑ์
แม้หลักสูตรนี้จะถูกปิดไปแล้ว ยังสามารถ download แฟ้มที่เกี่ยวข้องได้จากแฟ้มแนบหรือจากลิงก์นี้ครับ
http://www.excelexperttraining.com/b...oads000590.php
หมายเหตุ
แม้ที่ผ่านมาผมไม่เคยได้คะแนนต่ำว่า 3.4 ก็ตาม ผมไม่เห็นด้วยกับการใช้เกณฑ์มาตรฐาน 3.4 ในการประเมินผลการอบรมของสมาคมเท่าใดนัก เพราะไม่ได้แยกคะแนนตามความยากง่ายของเนื้อหาที่อบรม หลักสูตรที่สอนง่ายอาจได้คะแนน 4.0 เต็มหรือมีแต่คำชม ส่วนหลักสูตรที่ยากๆได้คะแนนเพียง 3.0 ก็ไม่แปลก อีกทั้งถ้าอบรมไปแล้วเจอแต่คำติมากกว่าคำชมก็ควรย้อนดูพื้นฐานของผู้เข้าอบรมด้วยว่าพร้อมหรือไม่
-
ผมก็มักจะเจออยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับความเข้าใจตนเองของผู้เข้าอบรม บางคนบอกว่า ใช้ Excel มาหลายปีแล้ว เขียนสูตรได้ รู้จักฟังก์ชัน และมักจะประเมินตนเองว่า มีพื้นฐาน Excel ที่ดีพอจะต่อยอดแล้ว (มักเรียกร้องขอเรียนหลักสูตร Advance) แต่ในความเป็นจริงพบว่า สูตรที่ว่าเขียนได้ ก็คือการบวกลบคูณหารธรรมดา ฟังก์ชันที่รู้จักก็แค่พื้นฐานทั่วไป SUM MAX MIN AVERAGE แต่ถ้าดีหน่อยก็ยังพอรู้จัก IF กับ VLOOKUP
บางหลักสูตร เช่น การทำงานแบบฐานข้อมูล ก็จำเป็นต้องรู้พื้นฐานมาก่อน(ในแบบที่ใช้งานได้จริง) แต่พอเจอพื้นฐานผู้เรียนไม่ได้ (ตามที่ระบุไว้) ก็เสียเวลาที่ต้องย้อนกลับไปปูพื้นฐานกันใหม่ สุดท้ายก็สอนเนื้อหาไม่ทัน หรือไม่ก็ต้องสอนแบบเร่งให้จบ ซึ่งไม่ว่าจะทางไหน ผู้เรียนก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี
หรืออย่างหลักสูตรการประมวลผลข้อมูล หรือการจัดทำรายงาน ถ้ามีการเก็บข้อมูลแบบฐานข้อมูลที่ดี ก็จะทำต่อได้ง่าย แต่ส่วนใหญ่ผู้เรียนมักจะไม่เข้าใจเรื่องฐานข้อมูล สนใจแต่อยากสร้าง PivotTable (เพราะได้รับการฝังหัวมาว่า PivotTable มันคือสุดยอด ฉะนั้น ฉันอยากใช้บ้าง) ตอนเรียนเราเตรียมไฟล์ตัวอย่างให้ลองได้ แต่กลับไปต้องไปสร้างฐานข้อมูลเอง ก็ไปต่อไม่ได้แล้ว เพราะมักจะเก็บตัวเลขในแบบที่ไม่ใช่ตัวเลข เก็บวันที่ในแบบที่ไม่ใช่วันที่ หรือเก็บเวลาในแบบที่ไม่ใช่เวลา แค่นี้ก็ยาวแล้วครับ
-
มันน่าจะมีแบบทดสอบ ชนิดที่ทำแล้วสามารถ identify เบื้องต้นว่าผู้ทำ ควรอยู่ในระดับไหนตามมาตรฐาน
เพราะพนักงานที่ใช้ excel มานาน > 2 ปีขึ้นไป ก็มักจะเชื่อมั่นว่าตัวเค้าเองว่าถ้าไม่อยู่ในระดับ Intermidead ก็ Advance แล้ว แต่พอเจอพวกสูตรประยุกต์ multiple match หรือสูตรแบบ array เข้าไป ตอบว่าไม่เคยเห็น หรือไม่รู้มาก่อนเลยว่า.... Excel ก็ทำแบบนี้ได้
คนสอนก็เลือกไม่ถูกว่าคลาสนี้จะให้ใครเข้ามาบ้าง
-
เห็นด้วยครับ การจะบอกว่าใครมีความรู้ในการใช้ Excel ที่ระดับไหนนั้นเป็นเรื่องยากครับ แต่ถ้าไม่แยกกลุ่มผู้เข้าอบรมให้ดีจริง ๆ ก็จะเกิดปัญหาแบบที่ครูเอกบอกครับ คือต้องถอยหลังสอนปรับพื้น แล้วต้องรีบสอนในสิ่งที่ได้รับ assignment ให้ทัน ทำให้ต้องรีบเร่ง แล้วก็ไม่มีประสิทธิภาพ 
ผมก็ได้สอนที่บริษัทเหมือนกัน ไม่ได้เป็นฝ่าย Training แต่เพราะรู้เยอะเลยให้ช่วยสอน ก็พบปัญหานี้เหมือนกัน ขนาดผมสอนให้ผู้บริหารระดับกลางที่มีประสบการณ์ใช้ excel ไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่เมื่อจะสอนก็ต้องปรับพื้นเรื่องการใช้ "$" ที่เป็นเรื่องสำคัญ แต่ยังใช้กันไม่เป็น การอ่าน syntax ก็ไม่แม่น กว่าจะได้สอนก็ปาเข้าไป ครึ่งคอร์สแล้วครับ
ผมว่าพนักงานทุก ๆ ระดับก็น่าจะมีปัญหาเช่นเดียวกันนี้ แต่ละคนใช้ excel แค่เท่าที่รู้ มีส่วนน้อยจริง ๆ ที่กล้าลองทำ กล้าค้นหาสิ่งใหม่ แต่มักประเมินความสามารถของต้นเองจากความคล่องแคล่วในการทำงานแบบเดิม ๆ นั้น ว่าเป็น advanced level นั่นเอง
ผมจึงเสนอที่บริษัทว่า ต้องให้เริ่มจากพื้นฐานก่อนสัก 3 ชั่วโมงเสมอ แล้วเราค่อยดูสถานการณ์ปรับแผนการสอน ถ้ากลุ่มไหนมีความรู้ดีแล้วก็จะไปได้เร็วขึ้นเองครับ จะได้ไม่ต้อง over expect ครับ ไม่งั้นก็จะประเมินว่าสอนไม่ดีอยู่ร่ำไปครับ
-
กว่าจะรู้จัก Excel ได้จนถึงขั้นนี้ไม่ใช่ง่ายเลยนะครับ ต้องใช้เวลาพอสมควรทีเดียวทั้งต้องอ่าน ทำ และ ลองผิดลองถูกหลายๆครั้งจนกว่าจะมั่นใจว่า ใช้งานได้จึงค่อยเอาไปสร้างงานจริง
ผมเจอโทรศัพท์มาเชิญบ่อยๆ อยากให้ไปสอนแค่ครึ่งวันหรือวันเดียวแต่ต้องการเยอะแยะไปหมด ซึ่งผมก็ปฏิเสธไปและแนะนำว่าสิ่งที่เขาต้องการนั้นเป็นไปได้ยากเว้นแต่จะคัดผู้เข้าอบรมที่เก่งและเก่งพอๆกันมาต่อยอด แล้วแนะนำให้ลองติดต่อวิทยากรคนอื่นแทน
หลักสูตรแบบเร่งรัดหรือรวบลัดที่ใช้เวลาอบรมไม่กี่วันก็น่าห่วงมาก ยิ่งถ้าตั้งชื่อหลักสูตรให้สวยหรูก็จะสร้างความคาดหมายจากผู้เข้าอบรมว่าเรียนแค่นี้ก็ครบถ้วนแล้วหรือเป็นขั้นสูงแล้ว การที่ไม่สามารถคัดผู้เข้าอบรมได้นี่แหละที่ทำให้สุดท้ายแล้ววิทยากรต้องปรับเนื้อหาให้เหลือแต่เรื่องง่ายๆ เพื่อเอาใจผู้เข้าอบรมหรือเพื่อรักษาหน้าตาของวิทยากรเอง ซึ่งผู้เข้าอบรมจะไม่มีทางรู้หรอกว่ายังมีเนื้อหาอีกมากที่ยังไม่ได้เรียน จะมารู้ตัวต่อเมื่อได้เทียบเนื้อหาจากการเข้าเรียนหลักสูตรอื่นจากวิทยากรคนอื่น
แน่นอนว่าผู้เข้าอบรมต้องการประหยัดเงิน ไม่อยากเสียเวลาทำงาน จึงไม่อยากเรียนหลักสูตรหลายวันที่คิดว่าแพงเลยหาทางเรียนหลักสูตรราคาถูก ในที่สุดก็เลยได้ความรู้ไปไม่คุ้มค่าสมกับเงินที่ตัวเองจ่ายไป
-
วิธีหาวันที่ทำงานโดยไม่นับวันหยุดที่เรากำหนดได้เอง
วิธีหาวันที่ทำงานโดยไม่นับวันหยุดที่เรากำหนดได้เอง
เรื่องนี้ต้องสร้าง VBA มาใช้เองครับ
ผมสอนในหลักสูตรวางแผน MRP ที่ปิดไปแล้ว (น่าเสียดายมาก)
ในแฟ้มแนบ
=ToDate(From,Workdays,WeekHoliday,Special) หาวันทำงานสุดท้าย
=FromDate(To,Workdays,WeekHoliday,Special) หาวันเริ่มต้นทำงานจากวันทำงานสุดท้ายย้อนกลับไป
=DaysCount(From,To,WeekHoliday,Special,1) นับจำนวนวันทำงาน (Workdays)
=DaysCount(From,To,WeekHoliday,Special,2) นับจำนวนวันหยุดประจำสัปดาห์ (Week Holiday)
=DaysCount(From,To,WeekHoliday,Special,3) นับจำนวนวันหยุดพิเศษ (Special)
วันที่หยุดพิเศษห้ามซ้ำกับวันหยุดประจำสัปดาห์อีก
วันหยุดประจำสัปดาห์ ให้ใส่เลขแทน 1=Sunday, 2=Monday,....7=Saturday
Posting Permissions
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules